MONO พุ่งกระฉูด 17% นิวไฮรอบ 4 เดือน สวนโบรกฯแนะ “ขาย” ชี้ขาดทุนต่อเนื่อง

MONO พุ่งกระฉูด 17% นิวไฮรอบ 4 เดือน สวนโบรกฯแนะ "ขาย" ชี้ขาดทุนต่อเนื่อง โดย ณ เวลา 15.00 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 1.47 บาท บวก 0.21 บาท หรือ 16.67% สูงสุดที่ระดับ 1.48 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.26 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43.78 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ณ เวลา 15.00 น. อยู่ที่ระดับ 1.47 บาท บวก 0.21 บาท หรือ 16.67% สูงสุดที่ระดับ 1.48 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.26 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43.78 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.50 บาท เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2562

อย่างไรก็ดี บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มี.ค.63) แนะนำ “ขาย” MONO ราคาเป้าหมาย 1.20 บาท/หุ้น โดยยังคงแนะนำ “ขาย” เนื่องจาก การแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัวส่งผลต่อภาพรวมการใช้จ่ายโฆษณาลดลง รวมถึงการแข่งขันของธุรกิจทีวีดิจิทัลยังสูง รวมถึงการหันไปใช้สื่อโฆษณานอกบ้านและออนไลน์เพิ่มขึ้นจากอัตราค่าโฆษณาที่ถูกกว่าและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และต้นทุนคอนเทนท์ยังสูงแม้จะมีการปรับลดค่าใช้จ่ายลง คาดผลประกอบการ 2 ปีนี้ยังขาดทุนและจะเพิ่มขึ้นในปี 2565 จากฐานต่ำ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 1.20 บาท

ขณะที่ MONO ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น 15% ในกรณี worst case ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาด COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อรายได้โฆษณาไม่เติบโต รายได้จากงานอีเว้นท์ช่วงสงกรานต์ที่อาจจะถูกยกเลิก แต่บริษัทคาดรายได้จากการบอกรับสมาชิก (Monomax) เพิ่มขึ้นจากการขายแพคเกจเฉพาะให้กับกลุ่ม telecom และ mobile operators ซึ่งจะเริ่มเดือน มี.ค.20 คาดรายได้ 302 ล้านบาท/ปี (9 เดือน) บริษัทคาดรายได้ภาพยนตร์เพิ่มขึ้นจำนวน 10-12 เรื่อง

สำหรับกรณี best case บริษัทคาดรายได้เพิ่มขึ้น 40% จากการปรับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 30% เป็น 45,000 บาท/นาที จาก 34,000 บาท/นาที โดยคาดอัตราการใช้สื่อโฆษณาเท่ากับปี 2562 ที่ 63% บริษัทมีแผนลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายราว 500-600 ล้านบาท จากการหยุดธุรกิจที่ไม่ทำกำไร ลดต้นทุนการผลิตคอนเทนท์ ควบคุมต้นทุนทางการตลาด และลดพนักงานจำนวน 300 คน (ต้นปี’20 จำนวนพนักงานอยู่ที่ 1,000 คน)

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/63 คาดยังคงขาดทุน เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังซบเซารวมถึงการแพร่ระบาด COVID-19 ส่งผลสื่อโฆษณาโดยรวมลดลง และใน 1Q20 บริษัทมีบันทึกค่าใช้จ่ายเงินชดเชยจากการลดพนักงานประมาณ 40 ล้านบาท โดยยังคงคาดผลประกอบการในปี 2563-64 ยังคงขาดทุน 238 ล้านบาท และ 149 ล้านบาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากรายได้ธุรกิจทีวีมีการแข่งขันที่ยังสูงทำให้การปรับขึ้นราคาค่อนข้างจำกัด แม้ว่าเรตติ้งของช่อง MONO29 ยังอยู่ใน 5 อันดับแรก แต่อัตราการใช้สื่อโฆษณาลดลง ด้านธุรกิจให้บริการบอกรับสมาชิก(Subscription Service) คาดเพิ่มขึ้นจากการขายแพ็คเกจให้กลุ่ม telecom ด้านต้นทุนคอนเทนท์และค่าใช้จ่ายยังสูงแม้ว่าบริษัทจะมีการปรับลดต้นทุนการผลิตคอนเทนท์ลง โดยบริษัทยังคงวางงบลงทุนปีนี้ที่ 1-1.35 พันล้านบาท เราคาดอัตราใช้สื่อโฆษณาทีวีดิจิทัลอยู่ที่ 55% (24 ชม.) คาดอัตราค่าโฆษณาปี 2020-21F คาดอยู่ที่ 34,000-38,000/นาที สำหรับเรตติ้งช่อง MONO29 ณ ก.พ.20อยู่ที่ 1.25 จาก ก.พ.19 อยู่ที่ 1.09

อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำ “ขาย” เนื่องจากภาพรวมยังไม่สดใสในช่วง 2 ปี ยังคาดขาดทุนจากธุรกิจหลักจากให้บริการโฆษณาโดยเฉพาะทีวีดิจิทัลที่มีการแข่งขันทั้งด้านคอนเทนท์และราคารุนแรง รวมถึงอุตสาหกรรมการใช้จ่ายสื่อโฆษณาที่ไม่เติบโตตามสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่เอื้ออำนวย ในขณะที่ต้นทุนคงที่ยังสูงจากการลงทุนคอนเทนท์ใหม่ๆ เพื่อสร้างเรตติ้งให้เป็นที่นิยมและเพิ่มคอนเทนท์ให้ธุรกิจบริการ Subscription ประกอบกับบริษัทยังมีขาดทุนสะสมอยู่ทำให้เราคาดว่าจะไม่มีการจ่ายเงินปันผล ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 1.2 บาท (อ้างอิงวิธี DCF, WACC 8.2%) ความเสี่ยง : การแข่งขันทีวีดิจิทัลยังรุนแรง, ภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังซบเซา

Back to top button