“ตลาดฯนิวยอร์ก” งัดCircuit Breaker พักซื้อขายรอบ 3 ของเดือน หลังดัชนีรูดหนัก วิตกโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มี.ค.63) ตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงอย่างหนัก จนต้องใช้ระบบ Circuit Breaker เป็นครั้งที่ 3 ในเดือนมี.ค.63 เพื่อพักการซื้อขายชั่วคราว เนื่องจากนักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ หลังจากเปิดตลาดได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวลดลง 2,250.46 จุด หรือ 9.71% มาอยู่ที่ 20,935.16 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลงกว่า 8% ส่งผลให้ต้องพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที

อนึ่ง ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ประกาศใช้ระบบ Circuit Breaker ครั้งแรกของปีนี้เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มี.ค.63 โดย ตลาดหุ้นนิวยอร์กประกาศพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที หลังจากเปิดตลาดได้เพียง 5 นาที เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1,800 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลง 7% ส่งผลให้มีการใช้ระบบ circuit breaker เพื่อระงับการซื้อขายชั่วคราว

อย่างไรก็ดี ได้มีการใช้ระบบ Circuit Breaker เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มี.ค.63 โดยหลังจากเปิดตลาดได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,856.91 จุด ลบ 1,696.31 จุด หรือ 7.20% ส่วนดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 2,549.05 จุด ลบ 192.33 จุด หรือ 7.02% ส่งผลให้มีการใช้ระบบ circuit breaker พักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที

อนึ่ง ตามกฎระเบียบของวอลล์สตรีท จะมีการใช้ circuit breaker ใน 3 กรณี ดังนี้

1. หากดัชนี S&P 500 ติดลบ 7% จะมีการระงับการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที
2. หากดัชนี S&P 500 ติดลบ 13% จะมีการระงับการซื้อขายต่อไปอีก 15 นาที
3. หากดัชนี S&P 500 ติดลบ 20% จะมีการระงับการซื้อขายตลอดทั้งวัน