บักโกรกไขก๊อก ?

FC ประยุทธ์ตัวยง ดี้ นิติพงษ์ ทักผู้นำ ตาลอย ผอมโกรก ประกาศ “ประเทศไทยต้องชนะ” แนะนำให้ลาออกเถอะ ถ้าไม่กล้าโละทีมงานที่ทำให้ดูเป็นตัวตลก


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

FC ประยุทธ์ตัวยง ดี้ นิติพงษ์ ทักผู้นำ ตาลอย ผอมโกรก ประกาศ “ประเทศไทยต้องชนะ” แนะนำให้ลาออกเถอะ ถ้าไม่กล้าโละทีมงานที่ทำให้ดูเป็นตัวตลก

ฟังแล้วก็หัวร่อก๊าก เพราะดูนายกฯ แถลงรู้สึกโทรมมาก แต่ยังคิดว่าเราอคติหรือเปล่า ที่ไหนได้ FC ตู่จัดหนักกว่า

ปัญหาไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ แต่เป็นคำแถลงที่ดี้บอกว่า “ไม่เป็นบวก” และ “ไม่ได้น้ำหนักอะไรนอกไปจากการสื่อข่าวเดิม ๆ” จนบางคนแซวว่า ประชาชนรอดูทั้งประเทศ นึกว่ามีอะไรสำคัญ สุดท้ายสอนให้ล้างมือ

มาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาล พอรับได้ไหม ก็ใช้ได้นะ ถ้ายังไม่ถึงระดับ 3 แต่ประชาชนก็ยังงง เราอยู่ระดับไหนกันแน่ เพราะแทนที่จะให้แพทย์แถลง กลับใช้ “ศรีธนญชัยลอดช่อง” มาตีความ บอกว่ายังไม่ใช่ระดับ 3 แต่เป็นระดับ 2 แบบไทย ๆ เพราะเรานิยามของเราเอง

ก็เลยหัวร่องอหาย ประชาชนต้องการความชัดเจน รัฐบาลกลับให้วิษณุมาสร้างความคลุมเครือ

รัฐล้มเหลว รัฐบาลล้มละลาย จะเรียกอย่างไรก็ได้ เพราะถ้าถึงขั้น สุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องออกมาเรียกร้อง พี่น้อง กปปส.ให้ตั้งสติ พึ่งธรรมะ อย่าซ้ำเติมรัฐบาล ก็แสดงว่าอาการหนัก

คนชั้นกลางในเมือง คนชั้นกลางระดับบนคนมั่งมี ที่เป่าปี๊ด ๆ ปิดเมืองนี่แหละ หวาดผวากับโควิด-19 มากที่สุด

ปัญหารัฐบาลตอนนี้ สังเกตให้ดี ไม่ใช่แค่ประชาชนก่น ไม่เชื่อมั่น ไม่เชื่อมือ หมดความเชื่อถือ ยังมีความไม่ลงรอย ไม่เป็นเอกภาพ หรืออาจร้าวลึก ในพรรคร่วมรัฐบาล

เช่นอยู่ดี ๆ ส.ส.ภูมิใจไทย ที่หัวหน้าเป็น รมว.สาธารณสุข ก็ผลักดันให้ “ปิดจังหวัด” ทั้งบุรีรัมย์ อุทัยธานี แม้เป็นคำสั่งผู้ว่า แต่ประกาศผ่านเพจนักการเมือง ว่า GU ต้องรอด จนชาวบ้านสงสัยว่าภูมิใจไทยรู้อะไรวงในหรือเปล่า จึงชิงปิดจังหวัดก่อนรัฐบาล

ปัญหากักตุนหน้ากาก จู่ ๆ นายกฯ ก็ออกคำสั่งย้ายอธิบดีกรมการค้าภายใน โดย รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่าไม่รู้มาก่อน นายกฯ ไม่ได้ปรึกษา

น่าสังเกตด้วยว่า ข้อครหากักตุนหน้ากาก โดนคนละหมัด จากพลังประชารัฐ มาถึงประชาธิปัตย์ ทีแรก เพจดังชี้เป้า คนที่อ้างว่าสนิทกับคนติดตามธรรมนัส โพสต์ขายหน้ากาก 200 ล้านชิ้น จน 17 ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่เคยประกาศไม่ไว้วางใจธรรมนัส เรียกร้องพรรค เลิก “พายเรือให้โจรนั่ง”

ไม่กี่วันต่อมา ทนายคนดังก็เอาหลักฐานไปให้ตำรวจ ระบุว่าที่ปรึกษาหญิงของรัฐมนตรี กักตุนหน้ากาก ซึ่ง มัลลิกา บุญมีตระกูล ที่ปรึกษาจุรินทร์ ก็เพิ่งส่ง “ทนายนกเขา” แกนนำ คปท. ไปแจ้งความทั้งผิด พ.ร.บ.คอมพ์และหมิ่นประมาท

ประหลาดไหม ไลน์กลุ่ม ปชป. ก็มีตอนหนึ่งที่ ส.ส.ระบุว่า ทราบเรื่องกักตุนหน้ากากอนามัย มาตั้งแต่ต้นเดือน “ได้รับแจ้งจากเครือข่ายว่าจะมีการกล่าวหาว่ามีที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งจะสร้างความเสื่อมเสียให้ท่านหัวหน้ามีมลทิน” จะพูดในที่ประชุมพรรควันที่ 7 มี.ค. แต่พรรคก็เลื่อนไปไม่มีกำหนด

ปรากฏการณ์เหล่านี้ ทำให้สงสัยว่า ต่อให้ผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปได้ พรรคร่วมรัฐบาลจะทำงานกันอย่างไร ขณะที่ประชาชนทั้งฝ่ายไล่ลุงเชียร์ลุง ก็แสนเบื่อหน่าย ไม่ไว้วางใจ นักการเมืองทั้งพรรคร่วมและพรรคแกนนำ

ส่วนตัวประยุทธ์เอง นอกจากบักโกรกกับความกดดัน แม้ไม่ถอดใจ ประชาชนก็มองว่าล้มเหลวในการบริหาร ไม่เว้นกระทั่งคนเคยหนุน (แม้น้ำเสียงเห็นใจก็บอกว่าไม่ไหวแล้ว) ต่อให้ผ่านโควิด-19 ไปได้ จะรับมืออย่างไรกับปัญหาอีกมาก โดยเฉพาะเศรษฐกิจถดถอย ที่จะลามทั้งโลก

แนวโน้มเหล่านี้ เห็นชัด ๆ ว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนผู้นำ แต่จะเปลี่ยนอย่างไรเมื่อรัฐธรรมนูญผูกเงื่อนตาย นี่คือโจทย์ใหญ่ของฝ่ายอนุรักษนิยม

Back to top button