โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” BAM รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง ชูเป้าสูง 25 บาท

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM โดยนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ขณะนี้แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาทต่อหุ้น โดยมองว่า BAM เป็นผู้นำกลุ่มบริหารสินทรัพย์ (AMCs) ของประเทศที่มีฐานสินทรัพย์แข็งแกร่งที่คิดเป็น 47% ของอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถแปลงเป็นกระแสเงินสดได้สูงกว่า 10,000 ลบ./ปี หรือคิดเป็นดิวิเดนยิลด์มากกว่า 5% ณ ราคาปัจจุบัน

นอกจากนี้โมเดลธุรกิจยังมีความทนทานต่อภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ขณะที่สถานการณ์หนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ในระบบมีทิศทางเร่งตัวในปัจจุบัน และแนวโน้มต้นทุนทางการเงินลดลงยังเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของบริษัท ในระยะกลาง-ยาวอีกด้วย

ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสนใจของ BAM ประกอบด้วย 2) อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต NPL ในระบบที่เร่งตัว 8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นโอกาสที่ซื้อหนี้ฯ รองรับการเติบโต 3-5 ปีข้างหน้า

2) ความพร้อมด้านเงินทุนหลังจาก IPO ทำให้ D/E ลดต่ำกว่า 2 เท่า เปิดช่องว่างสำหรับการขยายพอร์ต iii) ความยืดหยุ่นในการบริหารแข่งขันกับเอกชนรายอื่นได้ เริ่มตั้งแต่การประมูลซื้อ-เจรจาลูกหนี้-จำหน่ายสินทรัพย์ทั้งกลยุทธ์ด้านราคาและโปรโมชัน ผ่าน 26 สาขาครอบคลุมมากสุดในประเทศ จะลดระยะเวลาคืนทุน และเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้ดีขึ้นได้ หนุนเงินสดเรียกเก็บ 4-8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนใน 3 ปีข้างหน้า สามารถจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ

นอกจากนี้ BAM ยังได้รับปัจจัยบวกจากกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.00 เป็นร้อยละ 0.75 ต่อปี โดยให้มีผลในวันที่ 23 มีนาคม 2563 เพื่อลดภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ บรรเทาปัญหาสภาพคล่องในตลาดการเงิน และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนมาตรการการคลังของรัฐบาลที่ได้ออกมาแล้วและจะออกมาเพิ่มเติม