STA วิ่ง5 วันพุ่ง18% ตั้งเป้าผลงานปี63 พลิกกำไร หลังยอดขายถุงมือ-ผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติพุ่ง
STA วิ่ง5 วันพุ่ง18% ตั้งเป้าผลงานปี63 พลิกกำไร หลังยอดขายถุงมือ-ผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติพุ่ง โดย ณ เวลา 15.18 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 11.20 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 7.69% สูงสุดที่ระดับ 11.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 191.05 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ณ เวลา 15.18 น. อยู่ที่ระดับ 11.20 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 7.69% สูงสุดที่ระดับ 11.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 191.05 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น STA ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 5 วันติด นับตั้งแต่ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 9.50 บาท เมื่อวันที่ 23 มี.ค.63 คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.70 บาท หรือคิดเป็น 17.89%
น.ส.ทิพย์วดี สุดเวหา ผู้จัดการกลุ่มงานนักลงทุนสัมพันธ์ STA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 63 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 148.54 ล้านบาท จากปริมาณการขายถุงมือยางในปีนี้ที่คาดจะเพิ่มเป็น 28,000 ล้านชิ้น จากสิ้นปี 62 อยู่ที่ 19,913 ล้านชิ้น และผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติเพิ่มเป็น 1.3-1.4 ล้านตัน จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 1.1 ล้านตัน
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้มีความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกคิดเป็น 90% ของยอดขายรวม และที่เหลือมาจากในประเทศ แต่ปีนี้คาดว่าสัดส่วนยอดขายในประเทศจะเพิ่มขึ้นราว 1-2% อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทจะมีสัดส่วนการส่งออกค่อนข้างสูง แต่ในภาวะที่ในประเทศมีความต้องการถุงมือยางค่อนข้างมากยืนยันว่าจะให้ความสำคัญกับการขายในประเทศเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าที่จะลงทุนในปีนี้ 1,300 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตถุงมือยางเพิ่มเป็น 33,000 ล้านชิ้นต่อปี คาดจะเห็นกำลังการผลิตใหม่ได้ในช่วงเดือน เม.ย.นี้ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 27,000 ล้านชิ้นต่อปี และเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 100% แล้ว รวมถึงจะใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติด้วย
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก เห็นได้จากการเดินเครื่องกำลังการผลิตเต็มที่ 100% มาระยะหนึ่งแล้ว ขณะเดียวกันราคายางธรรมชาติก็ปรับตัวลดลงสอดคล้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลดีต่อต้นทุนวัตถุดิบ อีกทั้งค่าเงินบาทก็อ่อนค่าต่อเนื่อง
“แม้เราจะมีการส่งออกในสัดส่วนที่สูง แต่เรายืนยันว่าเราจะให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศ และไม่ทำให้ตลาดในประเทศขาดแคลน โดยเราเตรียมจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก เพื่อรองรับกับความต้องการทั่วโลก”