PTTEP พุ่งแรง 8% คาดเก็งกำไรระยะสั้น-ขานรับราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเช้านี้! เคาะเป้า 89 บ.

PTTEP บวกแรง 7% คาดเก็งกำไรระยะสั้น-ขานรับราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเช้านี้! เคาะเป้า 89 บ.


ผู้สื่อข่ารายงานว่า บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ณ เวลา 11.49 น. อยู่ที่ระดับ 72.50 บาท บวก 5.50 บาท หรือ 8.21% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.12 พันล้านบาท

บล.เอเชีย เวลท์  ระบุว่า ภาพรวมการลงทุนวันนี้(2 เม.ย.) ยังคงมอง SET Index มีโอกาสผันผวนในกรอบขาลง แต่การปรับลดลงจะเริ่มจำกัด โดยเรายังให้น้ำหนักความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ COVID-19 หลังผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเชิงลบในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตามการรายงาน PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค. ที่ดีกว่าคาด สนับสนุนการลงทุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก  COVID-19 (Theme Investment) ขณะที่สัญญาณราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว มองเป็นโอกาสในการเก็งกำไรระยะสั้น หุ้นในกลุ่มพลังงาน เท่านั้น

– ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวเช้านี้ รับข่าวการโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ – ปัจจัยหนุนมาจาก (1) ผู้นำรัสเซีย เปิดเผยว่ามีการเจรจากับกลุ่ม OPEC (ไม่รวมซาอุฯ) ในการรักษาเสถียรภาพ เบื้องต้นทางรัสเซีย จะยังไม่มีการเพิ่มกำลังผลิตในช่วงนี้ และ (2) ความกังวลต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลางระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน

 

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ราคาน้ำมันรีบาวด์ขึ้นในเช้านี้ มาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ขู่โจมตีอิหร่าน หลังมีรายงานว่าอิหร่านกำลังวางแผนจะโจมตีกองทัพสหรัฐในอิรักอีกครั้ง อาจกระทบต่อ supply ได้ แต่อย่างไรก็ดี ประเด็นสำคัญยังคงอยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งล่าสุดกำลังการผลิตรวมของซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นกว่า 20% สู่ 12 ล้านบาร์เรล/วันแล้ว เป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี รวมถึงจับตาการประกาศ official selling price 5 เม.ย.นี้ ว่าจะเพิ่มแรงกดดันต่อสงครามราคาน้ำมันอีกหรือไม่ ทำให้กลุ่มพลังงานยังคงมีแรงกดดันอยู่

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยได้แนะ”ซื้อ”หุ้นบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) แม้มีมุมมอง Negative ต่อแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 1/63 ของ PTTEP ที่ 10,357 ล้านบาท (-13% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -10% q-q) ต่ำกว่าที่เคยคาด จากปริมาณขายมีแนวโน้มน้อยกว่าคาดเดิม โดยการลดลง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากแรงฉุดของ unit cost ที่เพิ่มขึ้นจากแหล่งมาเลเซียและ Partex เป็นหลัก ส่วนการลดลง q-q มาจากปริมาณขายที่ลดลง โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 2/63 จะแย่ลงอีก จากแรงฉุดของราคาน้ำมันดิบตกต่ำเข้ามาเต็มไตรมาส ในขณะที่ต้องแบกค่าใช้จ่ายคงที่

อย่างไรก็ตาม มองราคาหุ้นที่ปรับลงนับแต่วันที่ 9 มี.ค. น่าจะสะท้อนแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอในไตรมาส 1/63 รวมถึงทั้งปี 2563 ไประดับหนึ่งแล้ว พร้อมให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 89.00 บาท/หุ้น มองเป็นโอกาสทยอยสะสมลงทุนระยะยาวในช่วงกดดันเพื่อรอการฟื้นของกำไรใน ปี 2564

Back to top button