โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” RPH ชูเป้า 8.40 บ.มองกำไรปีนี้โต 20% รับแผนขยายเตียง-ปรับค่ารักษา
โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” RPH ชูเป้า 8.40 บ.มองกำไรปีนี้โต 20% รับแผนขยายเตียง-ปรับค่ารักษา
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH โดยบทวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท/หุ้น
ด้าน นพ. ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานกรรมการบริหารของ RPH เปิดเผยว่า ยังคงเป้ารายได้รวมปี 2563 ขยายตัว 15-20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสัดส่วน IPD จะอยู่ที่ 60% แม้ว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต, กำลังซื้อ และสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ขอนแก่นมี เคสติดเชื้อ COVID-19 แค่ 3 ราย และรักษาตัวจนหายเป็นปกติแล้ว ยังไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/63 เติบโตจากช่ววงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายพื้นที่เตียง รวมถึงเพิ่มศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง นอกจากนี้ ทางบริษัทฯอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตขยายพื้นที่เตียงให้บริการเพิ่มจาก 171 เตียงเป็น 190-200 เตียง เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการคนไข้ได้มากขึ้น คาดเห็นความชัดเจนในช่วงกลางปี 2563
โดยนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากประเด็นข้างต้น พร้อมคาดผลประกอบการไตรมาส 1/63 จะขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และงวดไตรมาสก่อนหน้า จากการขยายจำนวนเตียง และการปรับราคาค่ารักษา โดยเป้าที่ RPH ตั้งไว้ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยคาด
ทั้งนี้ คาดรายได้ปี 2563 อยู่ที่ 938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน และกำไรสุทธิอยู่ที่ 123 ล้านบาท เติบโต 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุน คือ
1.รายได้ที่คาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน จาก 1.1) คาดการณ์รายได้เฉลี่ยต่อครั้งทั้ง IPD และ OPD สูงขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลมีการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลทุกๆ ปี และ 1.2) IPD และ OPD capacity utilization rate ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 82% และ 17.8% ตามลำดับ และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น โดยได้ประโยชน์จาก high operating leverage และสัดส่วนลูกค้า IPD ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำ “ซื้อ” RPH ที่ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท โดยปัจจุบัน RPH เทรดอยู่เพียง PER 11.9 เท่า (-2 SD Avg. PER 43.0 เท่า) ซึ่งต่ำกว่า peer (PER16.0 เท่า) และมี PEG เพียง 0.83 เท่า ต่ำกว่า peer (PEG 4.28 เท่า)
ทั้งนี้ ราคาหุ้นปัจจุบัน underperform SET 5.3% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา จากความกังวลเกี่ยวกับการระบาด COVID-19 ที่รุนแรงขึ้น เรามองว่าราคาในปัจจุบันค่อนข้างน่าสนใจ และยังไม่สะท้อนการเติบโตในปี 2563-64 โดยคาดกำไรสุทธิจะยังเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงกว่า 20%