THAI พุ่งชนซีลลิ่ง 3 วันติด! เก็งรัฐฯอุ้มสายการบิน-ราคาหุ้นต่ำบุ๊ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ณ เวลา 10.39 น. อยู่ที่ระดับ 4.84 บาท บวก 0.62 บาท หรือ 14.69% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 7.17 ล้านบาท โดยราคาพุ่งชน Ceiling ที่ระดับ 4.84 บาท ขณะเดียวกันราคาหุ้นยังพุ่งชนซิลลิ่ง 3 วันติด โดยนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.63 จนถึงล่าสุดวันนี้ นอกจากนี้ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 5.34 บาท

โดยล่าสุดบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศเครดิตพินิจ แนวโน้ม Negative หรือ ลบ สำหรับอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ “A” ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI โดยเป็นการสะท้อนถึงความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความไม่แน่นอนและความรุนแรงของผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ที่มีต่อผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของ THAI

อย่างไรก็ตาม แม้ผลการดำเนินงานของบริษัทจะถดถอยลงจากการคาดการณ์เป็นอย่างมาก แต่ทริสเรทติ้งยังคงยืนยันอันดับเครดิตของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นเดิม เนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลจะยังให้การสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอแก่ THAI อย่างต่อเนื่องและทันการณ์ เพื่อให้ THAI ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปได้

อีกทั้ง THAI มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจและเป็นสายการบินแห่งชาติ ซึ่งทั้งกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล ต่างพยายามให้ความมั่นใจแก่สาธารณชนเกี่ยวกับสถานะสภาพคล่องของ THAI และการสนับสนุนจากภาครัฐ

ทั้งนี้ หาก THAI ไม่ได้รับเงินเพิ่มทุนหรือการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องจากภาครัฐ ก็อาจประสบปัญหาสภาพคล่องใน 5 เดือนข้างหน้า โดยที่แหล่งเงินทุนของ THAI ณ เดือนธันวาคม 2562 ประกอบด้วยเงินสดและสินทรัพย์สภาพคล่องจำนวน 2.16 หมื่นล้านบาท และยังมีวงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินอีก 2 หมื่นล้านบาท โดย THAI มีภาระต้องชำระคืนเงินกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายใน 12 เดือนข้างหน้า ประกอบด้วยเงินกู้ระยะยาวจำนวน 2.17 หมื่นล้านบาท ขณะที่ ณ เดือนธันวาคม 2562 THAI มีภาระหนี้ระยะสั้นจำนวน 3.5 พันล้านบาท ภายใต้ประมาณการของทริสเรทติ้ง คาดว่า THAI จะมีเงินสดส่วนที่ขาดประมาณ 3 หมื่นล้านบาทในปี 2563

บริษัท ทริสเรทติ้งฯ ระบุอีกว่า คาดว่าผลการดำเนินงานของ THAI จะอ่อนแอลงอย่างมากในปี 2563 เนื่องจาก THAI ได้ประกาศหยุดให้บริการเกือบทุกเที่ยวบินตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 โดยทริสเรทติ้งประเมินว่าปี 2563 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของ THAI จะอยู่ที่ระดับประมาณ 100 ล้านบาท และทริสเรทติ้งเชื่อว่าการเดินทางทางอากาศจะหยุดชะงักต่อไปอีกนานประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งทริสเรทติ้งจะทำการประเมินอันดับเครดิตของ THAI อีกครั้งหากเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แย่ลงกว่าที่เคยประเมินไว้

สำหรับอุตสาหกรรมการบินเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 มากที่สุด โดยสายการบินที่จดทะเบียนในประเทศไทยทั้งหมดได้ประกาศหยุดให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศเกือบทุกเที่ยวบิน โดยการเดินทางทางอากาศต้องหยุดชะงักจากมาตรการของภาครัฐทั่วโลกที่ห้ามและจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส

ขณะเดียวกัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและยังไม่มีสัญญาณว่าการแพร่ระบาดจะไปถึงจุดสูงสุดหรือสามารถควบคุมได้เมื่อใด จึงเป็นการยากที่ทริสเรทติ้งจะคาดการณ์ได้อย่างมั่นใจถึงระยะเวลาที่การเดินทางทางอากาศหรืออุตสาหกรรมการบินโดยภาพรวมจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ แต่ทริสเรทติ้งจะทบทวน “เครดิตพินิจ” ของ THAI โดยทันทีเมื่อทริสเรทติ้งมีความชัดเจนเกี่ยวกับแผนของ THAI ในการจัดการกับสภาพคล่องในช่วงเวลาวิกฤตินี้ รวมถึงกรอบเวลาที่ชัดเจนของการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน