BJCHI พุ่งสวนตลาด! รับข่าวดีคว้า 2 งานใหม่ดัน backlog แตะ 4.7 พันลบ.
BJCHI พุ่งสวนตลาด! รับข่าวดีคว้า 2 งานใหม่ดัน backlog แตะ 4.7 พันลบ. หนุนปี 63 ผลงานฟื้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ BJCHI ล่าสุด ณ เวลา 10.16 น. อยู่ที่ระดับ 1.71 บาท ปรับตัวขึ้น 0.07 บาท หรือ 4.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.75 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงหลังจากบริษัทได้รับงานใหม่ 2 โครงงานในต่างประเทศ มูลค่ากว่า 750 ล้านบาท จนทำให้ปัจจุบัน ปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มมาอยู่ที่ 4,700 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 5 ปี
ทั้งนี้ นายหยัง เจิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ BJCHI เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก จากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้ดำเนินโครงการใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดย ล่าสุดได้รับงานใหม่จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ CRSIP Pipe Spool ในอุตสาหกรรมน้ำมัน และปิโตรเคมี ซึ่งเป็นงานในส่วนที่เพิ่มเติมโครงการเดิมที่กำลังอยู่ หลังจากที่ลูกค้าพึงพอใจกับงานที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบัน จึงทำให้บริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มเติมจากโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับงานในโครงการ Modular Packages Skids for Gas Turbine ในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า จากลูกค้ารายใหม่ ที่มองหาบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการทำงานในอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เหมืองแร่ ปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บริษัทฯ มีคุณสมบัติตามที่ลูกค้ารายนี้มองหา จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจในการดำเนินโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้ ลูกค้ารายใหม่ ยังต้องการมองหาบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่สามารถเป็นคู่ค้ากันในระยะยาว ดังนั้น จึงเชื่อว่า บริษัทฯ มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานเพิ่มเติมจากลูกค้ารายนี้ในอนาคต
โดยระยะเวลาในการดำเนินโครงการทั้ง 2 โครงการดังกล่าว มีระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ถึง กรกฎาคม 2564 ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2563-2564
“การที่บริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าลูกค้ามีความเชื่อมั่น และไว้วางใจบริษัทฯ จนทำให้ปัจจุบัน ปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มมาอยู่ที่ 4,700 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 5 ปี
โดยบริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการในปี 2563 จะพื้นตัวอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รวมทั้งบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่า 16,000 ล้านบาท
ขณะที่วิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดนั้น ทำให้ผู้พัฒนาโครงการจำนวนมากได้มองหา บริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่อยู่นอกประเทศจีน ที่อาจมีความเสี่ยงการเกิดโรคระบาดอีก สถานการณ์ดังกล่าว คาดว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่บริษัทฯ ในการเข้าไปรับงานมากขึ้นในปีหน้า” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวไว้