GUNKUL จัดปันผล 0.136 บ./หุ้น มั่นใจ “ธุรกิจโรงไฟฟ้า” ดันรายได้ปี 63 เข้าเป้าโต 25%

GUNKUL จัดปันผล 0.136 บ./หุ้น มั่นใจ “ธุรกิจโรงไฟฟ้า” ดันรายได้ปี 63 เข้าเป้าโต 25%


นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2562 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.136 บาท  รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 1,200  ล้านบาท

พร้อมกันนี้ยังได้อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท ในส่วนที่ไม่สามารถจัดสรรเพื่อจ่ายหุ้นปันผลได้ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 จำนวน  19,814,818 หุ้น หรือ 4,953,704.50 บาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) ในวันที่  29 เมษายน 2563 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 28 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563

อีกทั้งยังอนุมัติเพิ่มวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้อีกจำนวน 6,000 ล้านบาท จากวงเงินเดิมไม่เกิน 9,000 ล้านบาท รวมวงเงินใหม่ไม่เกิน 15,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 7 ปี

“จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาธุรกิจพลังงานทดแทนและผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี การที่บริษัทฯ จ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นครั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ได้ให้โอกาสและสนับสนุนบริษัทฯด้วยดีเสมอมา ทีมผู้บริหารจะมุ่งทำงานสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้นทุกท่านอย่างเต็มความสามารถ

เราอยากให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่าผู้บริหารจะผลักดันธุรกิจในเครือ GUNKUL ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพทุกส่วน ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 จะแพร่กระจายและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องโดยได้รับผลกระทบน้อยมาก สำหรับครึ่งปีแรก เท่าที่ดูสถานการณ์โรคในปัจจุบันก็น่าจะดีขึ้นตามลำดับ ฉะนั้น ยังมั่นใจว่า GUNKUL ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจพลังงานทดแทนที่ดำเนินการอยู่ โดยที่ผ่านมาธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความมั่นคงมากขึ้นจากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ

รวมถึงหางานใหม่ๆ เพิ่มเติม  และยังคงมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)  คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อ ให้ทำให้งานในมือ (order backlog) เพิ่มขึ้น กับปัจจุบันบริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวม 650 เมกะวัตต์ และสามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้แล้ว 437 เมกะวัตต์   จึงทำให้มั่นใจรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตอย่างโดดเด่น  โดยบริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้และกำไรจะเติบโตทุกไตรมาสเมื่อเทียบกับปี 2562

 

Back to top button