DOD ผลงานจะกลับมาสดใส   

เบื้องต้นจากข้อมูลผู้บริหาร DOD เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 และไตรมาส 2 ปี 2563 จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง


คุณค่าบริษัท               

เบื้องต้นจากข้อมูลผู้บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 และไตรมาส 2 ปี 2563 จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าหลักใหม่ที่เข้ามา และลูกค้ารายเดิม ๆ ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มแอลกอฮอล์ที่ยอดเติบโตค่อนข้างมากด้วย ซึ่งในกลุ่มนี้มีมาร์จิ้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว…ผู้บริหารจึงมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้อย่างไรก็เติบโตได้ !!!!

ขณะที่ในส่วนรายได้ต้องติดตามว่ายอดขายของ อัลทิมา ไลฟ์ จะมาหรือไม่ เพราะในส่วนดังกล่าวถือว่ารายได้ค่อนข้างเยอะ แม้มาร์จิ้นจะต่ำกว่ากลุ่มอื่นก็ตาม

อีกทั้งทางผู้บริหารระบุว่าผลกระทบจากโควิด-19 ยังไม่กระทบเพราะยังผลิตได้และยังได้เปิดโอทีเพิ่มด้วย แต่หากจะได้รับผลกระทบจริง ๆ ก็ถึงขั้นปิดโรงงาน

สำหรับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ถือว่าบริษัทได้รับคำสั่งซื้อในการผลิตเจลแอลกอฮอล์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ บริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์แบบครบวงจร ซึ่งเป็นการลงทุนผ่าน บริษัท ดีโอดี เฮ้ลท์ตี้ไลฟ์ จำกัด (DOD ถือหุ้นอยู่ 99.99%)  ต้องเพิ่มไลน์การผลิตเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้ทันตามยอดคำสั่งซื้อที่เข้ามาทุกวัน

โดยจากปัจจุบันที่ PCCA มีกำลังการผลิตเฉลี่ย 200,000 ขวดต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ขวดต่อวัน ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งแรกปีนี้มีแนวโน้มอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างแน่นอน

รวมถึงจะฟื้นตัวดีขึ้นจากในปี 2562 ที่ผ่านมา จากผลการดำเนินงานมีกำไรหดตัวลงนั่นเอง ….โดยผลการดำเนินงานงบปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 797.50 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 673.12 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากในปี 2562 มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตเครื่องสำอาง และกลุ่มธุรกิจเครือข่าย ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทซึ่งเป็นไปตามการกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินงาน โดยให้ธุรกิจมีความมั่นคงและยั่งยืนครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพและความงาม

ถึงอย่างไรในปี 2562 ทางบริษัทก็ทำกำไรได้เพียง 86.71 ล้านบาท หรือ 0.21 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 305.26 ล้านบาท หรือ 0.85 บาท เป็นการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขายที่สอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนการขายสินค้า (Product Mix) รวมทั้งต้นทุนขายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในปี 2562 เท่านั้น

อย่างไรก็ตามจากที่ประชุมคณะกรรมการล่าสุด มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมายสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท รวมเป็นเงิน 143.5 ล้านบาท แบ่งเป็นกำไรส่วนที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท และกำไรส่วนที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท

ทั้งนี้ ยังกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 16 มีนาคม 2563 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 มีนาคม 2563 เพื่อจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ตามมติเดิมที่ได้มีการแจ้งข่าวการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ 165,647,300 หุ้น 40.40%
  2. น.ส.เรณุมาศ อิศรภักดี 54,071,900 หุ้น 13.19%
  3. นายพชร พรรธนประเทศ 30,235,000 หุ้น 7.37%
  4. นายดนุพล ชิลลี่ 19,976,800 หุ้น 4.87%
  5. นายชัยวิทย์ อรุณเนตรทอง 16,000,000 หุ้น 3.90%

รายชื่อกรรมการ

  1. ม.ล.เติมแสง สรรพโส ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
  2. นายธนา รังสิกุล ประธานกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, รองประธานกรรมการบริษัท
  3. นายวุฒิชัย อนันตกุล กรรมการ
  4. น.ส.สุวารินทร์ ก้อนทอง กรรมการ
  5. นายเอกภูศิษฐ์ บุญศิริยศฐากุล กรรมการ

Back to top button