PTG ลดเป้า EBITDA ปีนี้เหลือโต 10-12%-หั่นงบลงทุน 50% รับมือผลกระทบโควิด

PTG ปรับแผนลดเป้า EBITDA เหลือโต 10-12%-หั่นงบลงทุน 50% รับมือผลกระทบโควิด


นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปีนี้ลงมาเหลือเติบโต 10-12% จากเดิมที่คาดโต 15-20% ตามยอดขายที่มีการปรับเป้าลงมาเหลือโต 13-15% จากเดิมที่คาดโต 15-20% เป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กระทบต่อปริมาณการขายน้ำมันของบริษัท

โดยในไตรมาส 1/63 มีปริมาณขายอยู่ที่ 1,217 ล้านลิตร ลดลง 1.8% เมื่อเทียบไตรมาส 4/62 ที่อยู่ที่ 1,241 ล้านลิตร แต่เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ จากผลกระทบของโควิด-19

ทั้งนี้ มองแนวโน้มปริมาณการขายในช่วงที่เหลือของปีน่าจะทยอยฟื้นตัวขึ้น โดยในเดือนพ.ค.เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น หลังสถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติบ้างแล้ว และเชื่อว่าน่าจะกลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในครึ่งปีหลังปริมาณการขายน้ำมันน่าจะเติบโตได้ 15-17% รวมถึงบริษัทยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังได้ลดงบลงทุนปีนี้ลง 50% เหลือ 2,500 ล้านบาท จากเดิมที่วางเป้าไว้ 5,000 ล้านบาท หลังชะลอการลงทุนบางส่วนออกไปก่อน และจะใช้เท่าที่จำเป็น อย่างการขยายสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 2,000 ล้านบาท และ ธุรกิจ NON-OIL 300 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมีสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 2,057 แห่ง แบ่งเป็น สถานีบริการน้ำมันที่ PTG เป็นเจ้าของเอง หรือ Company Owned Company Operated (COCO) จำนวน 1,583 แห่ง และในรูปแบบ Dealer Owned Dealer Operated (DODO) จำนวน 283 สาขา ขณะเดียวกันก็มีสถานีบริการแก๊ส LPG อยู่ที่ 78 แห่ง และในรูปแบบสถานีบริการแก๊ส LPG และสถานีบริการน้ำมัน (MIXED) อยู่ที่ 113 แห่ง

ขณะที่สถานีบริการน้ำมัน PT ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดทุกช่องทาง (All Channel Market Share) ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แล้ว โดยไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 14.1% ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดทุกช่องทางแตะ 15% และตั้งเป้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดผ่านช่องทางสถานีบริการ (Retail Channel Market Share) ปีนี้เพิ่มเป็น 17% จากไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 16.6% ส่วนธุรกิจสถานีบริการแก๊ส LPG ในไตรมาส 1/63 มีส่วนแบ่งการตลาด (Auto Channel Market Share) อยู่ที่ 10.4% คาดหวังว่าทั้งปีจะทำได้ในระดับ 10%

สำหรับธุรกิจการจำหน่ายแก๊ส LPG ครัวเรือน ณ สิ้นเดือนเม.ย.63 บริษัทได้มีการขยายร้านจำหน่ายแก๊ส LPG ไปแล้วจำนวน 25 สาขา และตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก โดยภายในเดือนมิ.ย.63 คาดมีสาขาทั้งสิ้น 105 สาขา ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ขณะเดียวกันก็ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจากนี้ จะมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ

Back to top button