CK ต้องช่วยตัวเอง.!
เป็นที่รู้กันดีว่า บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เป็นหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่สวมหมวก 2 ใบ
สำนักข่าวรัชดา
เป็นที่รู้กันดีว่า บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เป็นหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่สวมหมวก 2 ใบ
หมวกใบแรก…เป็นหนึ่งในบิ๊กรับเหมาฯ ที่รับงานทั่วราชอาณาจักร (ส่วนใหญ่ก็หากินกับบริษัทลูกนั่นแหละ)
ส่วนหมวกอีกใบ…เป็นโฮลดิ้ง คอมปันนี ลงทุนในบริษัทต่าง ๆ จนได้รับฉายา หุ้นรับเหมาฯ แม่ลูกดก…
ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่า บรรดาลูก ๆ ของ CK ถือเป็นลูกกตัญญูที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแม่อย่างต่อเนื่อง
ไล่มาตั้งแต่ลูกคนแรก บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ซึ่งผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ครอบคลุมพื้นที่ อ.นครชัยศรี อ.สามพราน อ.พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และ อ.เมืองสมุทรสาคร อ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร และบางพื้นที่ในจังหวัดปทุมธานี
ลูกคนนี้ถือว่า เป็นเด็กดีไม่เคยทำให้แม่ผิดหวัง…สร้างรายได้สม่ำเสมอ
ส่วนลูกอย่างบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง BMCL หรือรถไฟฟ้ากรุงเทพ กับ BECL หรือทางด่วนกรุงเทพ สถานการณ์ก็ดีขึ้น…
ถ้าจำกันได้ ตอนนั้น BECL ซึ่งทำธุรกิจทางด่วน กระแสเงินสดเยอะ แต่รายได้ไม่ Growth ไม่มีทางด่วนขึ้นใหม่…ส่วน BMCL ทำธุรกิจรถไฟฟ้า มีโอกาส Growth จากการขยายเส้นทางใหม่ แต่มีภาระหนี้สินเยอะ ยากที่จะเห็นกำไร…
จึงมีการจับทั้งสองธุรกิจมารวมกัน เป็นการกำจัดจุดอ่อนโครงสร้างทางการเงิน…ซึ่งพอมารวมกันปุ๊บ ก็ไปด้วยกันได้ กลายเป็น BEM ในปัจจุบัน
ก็ถือว่าหลักคิดถูกต้อง แต่หลังจากไวรัสโควิด-19 ออกอาละวาดหนัก…ทำให้งบไตรมาสแรกของ BEM ไม่ดี กำไรหายไปเกือบครึ่ง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งมาตรการ Work from Home และการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ปริมาณรถยนต์ที่ใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าลดลง แม้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเปิดส่วนต่อขยายครบทุกเส้นทางแล้วก็ตาม
ขณะที่ไตรมาส 2 ก็น่าจะทรุดต่อเนื่อง…ต้องรอการฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนลูกอีกคน…บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ถูกคาดหวังจากปีที่แล้วเริ่ม COD โรงไฟฟ้าไซยะบุรี ซึ่งน่าจะสร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร…เกิดปัญหาภัยแล้งจนทำให้ไตรมาสแรกพลิกมาขาดทุนสูงถึง 339 ล้านบาท
เรียกว่าเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 3 ปีเลยทีเดียว
เมื่อบรรดาลูกเทพ…เปลี่ยนมาเป็นลูกมาร (อาจแค่ช่วงระยะหนึ่ง) ก็ให้ราคาหุ้น CK ก่อนหน้านี้ไม่ไปไหน…
ดังนั้นการจะทำให้ราคาหุ้นกลับมาดีได้ สุดท้าย CK ต้องมาพึ่งตัวเองด้วยการซื้อหุ้นคืน…ตรงกับคำสอนที่ว่า “อัตตา หิ อัตตโน นาโถ” หรือ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” นั่นเอง
กรณีการซื้อหุ้นคืนจะทำให้ EPS หรือกำไรต่อหุ้นดีขึ้นตามสัดส่วนหุ้นที่หายไป (ล่าสุด CK แจ้งความคืบหน้าการซื้อหุ้นคืน โดยซื้อไปแล้ว 22 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.30% ของทุนชำระแล้ว มูลค่ารวม 413 ล้านบาท)
ขณะเดียวกัน ก็เป็นการบริหารสภาพคล่องของตัวเอง…
โดย CK เป็นบริษัทที่มีเงินสดค่อนข้างเยอะ ณ สิ้นไตรมาส 1/63 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดสูงถึง 9,384 ล้านบาท และมีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรอยู่ที่ 14,180 ล้านบาท
จัดว่าฐานะการเงินดีทีเดียว…แต่น่าเสียดายที่มี Backlog น้อยไปหน่อย อยู่ที่ 33,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ช่วงนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมากนัก
ครั้นจะปล่อยให้ราคาหุ้น CK ย่ำอยู่กับที่ก็คงไม่ดีแน่..มันเสียชื่อบิ๊กรับเหมาฯ และ “เจ้าสัวปลิว ตรีวิศวเวทย์” หมดนะสิ…
อ้อ…ก่อนหน้านี้ที่เห็นราคาหุ้น CK วิ่งร้อนแรง 3 วันติดต่อกันจนผิดวิสัย ก็อย่าเพิ่งดีใจไป…เป็นเพราะช่วงนี้มีฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเยอะเท่านั้น ไม่เกี่ยวปัจจัยพื้นฐานของ CK แต่อย่างใดนะจะบอกให้…
…อิ อิ อิ…