SISB บวกแรง 8% นิวไฮรอบกว่า 3 เดือน! คาดเก็งฯหุ้น Laggard-ลุ้นเข้า SET100 รอบใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ณ เวลา 11.09 น. อยู่ที่ระดับ 9.85 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 8.24%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 143.21 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮรอบกว่า 3 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นปรับตัวที่ระดับ 10.00 บาท เมื่อวันที่ 21 ก.พ.63

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า เก็บตกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ระยะที่ 4 – คณะกรรมการชุดเฉพาะกิจพิจารณากิจการ/กิจกรรม ที่จะผ่อนคลายให้มีการเปิดดำเนินการในระยะที่ 4 มีกำหนดยกร่างพิจารณาเสนอให้ ศบค. ชุดใหญ่พิจารณา 12 มิ.ย. รวมทั้งหารือเกี่ยวกับการเตรียมทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน คาดว่าจะเริ่มเปิด 15 มิ.ย. โดยคาดว่าจะมีการผ่อนผันให้กับ

(1) การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา นอกเหนือจากการเปิดเทอมของโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 1 ก.ค.

(2) กิจกรรมและกิจการที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิต และ (3) กิจกรรมด้านออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ และสันทนาการ หุ้นที่ได้ประโยชน์แต่ราคาหุ้นยังคง Laggard เลือก VGI PLANB IMPACT และ SISB

 

ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยฯ ได้คำนวณหุ้นที่จะเข้าและออกจากการคำนวณใน SET50 และ SET100 ในงวดครึ่งปีหลัง ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะประกาศการคัดเลือกหุ้นรอบนี้ในช่วงกลาง มิ.ย. 2563 และมีผลเริ่มใช้ 1 ก.ค. 2563 โดยผลการคำนวณในรอบนี้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2562 ถึง 14 พ.ค. 2563 (ยังเหลือข้อมูลอีก 2 สัปดาห์) ดังนั้น ผลของการคาดการณ์น่าจะมีความใกล้เคียงสูง โดยมีรายละเอียดคือ

สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้มี 2 บริษัท คือ บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW และบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะหลุด SET50 รอบนี้มี 2 บริษัท คือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA และบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU

ขณะที่ หุ้นที่คาดเข้า SET100 รอบนี้มี 8 บริษัท คือ บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE, บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO, บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI, บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF, บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB และบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV

ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะหลุด SET100 รอบนี้มี 8 บริษัท คือ DELTA, บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK, บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI, บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP, บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC, บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL และบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI

ทั้งนี้ จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน พบว่าหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้า SET50 จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7.3% ก่อนที่จะมีการนำเข้าไปคำนวณประมาณ 1 เดือน.