GRAMMY ผนึก VGI ผสานคอนเทนต์-สื่อโฆษณา ลุยโปรเจกต์ใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภค
GRAMMY ผนึก VGI ผสานคอนเทนต์-สื่อโฆษณา ลุยโปรเจกต์ใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภค
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ร่วมกับ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ประกาศความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งแรก จับมือปั้นโปรเจกต์ใหม่ เสริมความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มช่องทางการค้า รองรับการขยายตัวทางธุรกิจด้านการเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ และผู้ให้บริการสื่อโฆษณาตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ด้าน นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ GRAMMY เปิดเผยว่า บริษัทฯมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในฐานะที่ GRAMMY ซึ่งเป็น MUSIC SOLUTION ซึ่งนอกจากการผลิตคอนเทนต์ที่ดีแล้ว ยังต้องมีพันธมิตรที่ดีมาช่วยขับเคลื่อน สอดคล้องกับ 1 ใน 7 ยุทธศาสตร์สำคัญที่ได้วางแนวทางไว้ นั่นคือ ยุทธศาสตร์ด้าน Media Partnership โดยปีนี้บริษัทฯจะร่วมมือกับสื่อชั้นนำทั่วประเทศแบบครบวงจร รวมถึงแพลตฟอร์มรายใหญ่เพื่อการขยายฐานการเข้าถึงและการรับรู้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สื่อทีวี, สื่อวิทยุ, สื่อ Outdoor และสื่อโรงภาพยนตร์
โดยการร่วมมือกับ VGI ในครั้งนี้เป็นการเปิดช่องทางการค้า รวมถึงขยายช่องทางการทำการตลาดให้กับเจ้าของแบรนด์สินค้าและบริการต่าง ๆ ด้วย นับเป็นโอกาสดีที่ GRAMMY จะได้มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งทางด้านสื่อที่ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคทุกระดับ
ทั้งนี้ GRAMMY ได้เสนอช่องทางการค้าที่เรียกว่า MUSIC SOLUTION เพื่อนำมาใช้ในการร่วมมือกันครั้งนี้ ได้แก่
- MUSIC CONTENT ในปีนี้แกรมมี่มี CONTENT เพลง ในรูปแบบของ DIGITAL ALBUM ออกมามากมายที่ตอบโจทย์ในการเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายทั้ง REACH & ENGAGEMENT ครอบคลุมกลุ่ม NATIONWIDE / LOCAL HERO /FANBASE และ TRENDING ALBUM อาทิ พบกับอัลบั้มเต็ม 10 เพลงใหม่เป็นครั้งแรกของวง KLEAR ในอัลบั้ม GROW IN THE DARK ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย NATIONWIDE ครอบคลุมทั่วประเทศ หรืออัลบั้มที่ตอบโจทย์ LOCAL HERO เจาะจงไปที่กลุ่มเป้าหมายในแต่ละท้องถิ่น อย่าง อัลบั้มลำซิ่งลิซึ่ม ของหญิงลี ที่เจาะกลุ่มภาคกลาง เป็นต้น
- DIGITAL MEDIA นอกเหนือไปจาก MUSIC CONTENT ในรูปแบบของเพลง อีกหนึ่ง ASSET ที่สำคัญของแกรมมี่ก็คือศิลปินและเหล่า INFLUENCERS ซึ่งถือได้ว่าแกรมมี่มี GMM INFLUENCER HUB กว่า 65 ล้าน FOLLOWERS ที่ทรงพลังอยู่ในมือ ครอบคลุมไปทุกกลุ่มเป้าหมาย NATIONWIDE & COVERAGE ตั้งแต่ระดับ ARTIST (ศิลปิน) / MACRO (เพจต่างๆ) ไปจนถึงระดับ LOCAL ( PAGE LOCAL) และ MICRO INFLUENCERS (INFLUENCERS ระดับ ท้องถิ่น) ทำให้สามารถสื่อสารเจาะกลุ่มได้ทั้งแนวราบและ แนวดิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ
- ROAD TOURS กิจกรรมฟรีคอนเสิร์ต เจาะเข้าถึงตลาดภูมิภาคครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และครบวงจรในการทำ Music content คือ การทำ Online Offline และ On ground เมื่อมีอัลบั้มเพลงโปรโมทผ่านทาง Online Offline การทำ On ground คือจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่ทำให้เกิดความสมบูรณ์ โดยในปีนี้มี Road tour ทั้งหมด 31 ครั้งครอบคลุมทุกพื้นที่ อาทิ แกรมมี่ซูเปอร์โชว์ บุก 8 จังหวัดเจาะพื้นที่ภาคอีสาน, CLASH Road tour 5 จังหวัด, POTATO Campus Tour รวม 10 มหาวิทยาลัย และปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 25 ปีแกรมมี่โกลด์กับเส้นทางสายมิตรภาพ 8 จังหวัด
- SHOWBIZ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญทางธุรกิจ สำหรับคอนเสิร์ตขายบัตรทุกรูปแบบทั้ง MUSIC FESTIVAL อาทิ BIG MOUNTAIN / เชียงใหญ่เฟส / นั่งเล่น หรือ SOLO CONCERT ที่ถือได้ว่า แกรมมี่เป็นเจ้าตลาดกว่า 60% MARKET SHARE กว่า 300,000 ผู้ชมต่อปี ถือว่าเป็นช่องทางสำคัญสำหรับพาร์ทเนอร์รูปแบบ B2B ได้อย่างแท้จริง
ขณะที่นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ VGI เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำการตลาดแบบ O2O Solutions ธุรกิจโฆษณาคือ 1 ใน 3 แพลตฟอร์มธุรกิจของ VGI ที่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร บริษัทฯให้บริการสื่อโฆษณาครบวงจร ที่ครอบคลุมเส้นทางการใช้ชีวิตและการเดินทางของผู้คนในเมืองหลวงไปจนถึงผู้คนในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน, สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน, สื่อกลางแจ้ง, สื่อประเภทสตรีทเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงสื่อในสนามบินทั้งในและต่างประเทศ ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง Offline และ Online บริษัทฯมีความเข้าใจอย่างแท้จริงในพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภค จึงทำให้สามารถนำเสนอมุมมองสื่อโฆษณาได้ครบ 360 องศา
โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสีสันและความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลง ด้วยการนำ MUSIC CONTENT มาสื่อสารผ่านสื่อโฆษณาของ VGI 3 ประเภท คือ การ Wrap ตัวขบวนรถไฟฟ้า (TRAIN BODY) , สื่อจอดิจิทัลบนสถานีบีทีเอสและสื่อจอทีวีภายในขบวนรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารแบบ B2C ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส สูงถึงกว่า 1,300,000 คนต่อวัน ในขณะเดียวกันแกรมมี่ก็ได้มอบอาวุธหลักให้ VGI ได้นำไปต่อยอดในการสร้างสรรค์แคมเปญและเพิ่มโซลูชั่นส์ในการใช้งานด้านสื่อสารการตลาดให้กับลูกค้าของบริษัทฯ ทั้งยังช่วยยกระดับในการสร้างการรับรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง CONTENT ใหม่ๆได้อย่างง่ายดายมากขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ดี การผนึกกำลังกันในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดปรากฎการณ์ทางการตลาดที่ไม่เคยมีมาก่อนของบริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งด้าน CONTENT PROVIDER และด้านการตลาด O2O Solutions จะช่วยกระตุ้นตลาด LIFESTYLE ให้มีความคึกคักมากขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนและเข้าถึงมากขึ้น ทั้งในแง่ของ B2C ที่เป็นผู้บริโภคเอง และกลุ่มพันธมิตร B2B ของทั้ง 2 บริษัทฯ และทำให้การทำการตลาดในเชิง MUSIC MARKETING มีความแปลกใหม่มากขึ้น โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำกันอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2563