MINT ลุยแจกวอร์แรนต์ ราคาใช้สิทธิ์โดนใจ

หากประเมินสถานการณ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ที่ประกาศจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 7 หรือ MINT-W7 อายุ 3 ปี ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 22 หุ้นเดิม ต่อ 1 วอร์แรนต์ รวมเป็นจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ  235.56 ล้านหน่วย และมีอัตราค่าแปลงสิทธิ 21.60 บาท กลายเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนทั่วไปเกิดความอยากรู้ว่า วอร์แรนต์ตัวนี้จะอนาคตสดใสเพียงใด และนำไปสู่การตั้งสมมุติฐานความเป็นไปได้มากสุด

ประเด็นดังกล่าวทำให้สมมติฐานดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่นักลงทุนตัดสินใจแปลงสภาพวอร์แรนต์เป็นหุ้นสามัญทั้งหมดจะพบว่า บริษัทได้รับเงินทั้งสิ้น  5.08 พันล้านบาท  จึงมองว่า การออกวอร์แรนต์ในรอบนี้ เป็นประเด็นบวกต่อทั้งนักลงทุนและบริษัทในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะเป็นการได้เงินโดยที่ไม่มีต้นทุนทางการเงิน หรือไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย

ประกอบกับในช่วงที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก โดนกระทบอย่างรุนแรงจาก COVID-19 การได้เม็ดเงินดังกล่าวเข้ามาเติมสภาพคล่องในการทำธุรกิจ ย่อมทำให้การดำเนินงานมีความคล่องตัว และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งเมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติ  ย่อมกลายเป็น “โอกาส” ในการเติบโต และขยายส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่คู่แข่งอยู่ในวิกฤตและกำลังทยอยล้มหายตายจาก (Don’t waste of good crisis, Winston Churchill)

อย่างไรก็ดี สิ่งที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจในกรณีที่มีผู้ถือวอร์แรนต์และแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญนั้น จะส่งผลให้เกิด Dilution effect ต่อราคาหุ้น 4.5% (ทั้งหมด 235.56 ล้านหน่วย) จากฐานตัวหารโดยจำนวนหุ้นมากขึ้นนั่นเอง

ถึงกระนั้นต้องตั้งคำถามต่อไปว่า ผลของ Dilution 4.5% นั้นคุ้มค่าไหม?

คำตอบของเรื่องนี้อยู่ตรงที่ผลตอบแทนจากเงินก้อนดังกล่าวจะเกิดขึ้น “เมื่อ” วัคซีนโควิดออกจำหน่ายอย่างทั่วถึง (คาดว่าภายใน ไตรมาส 3/64) และสถานการณ์ท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว และกลับมาสู่ภาวะปกติ อีกครั้ง

โดยหากย้อนรอยดูผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นย้อนหลัง 4 ปี (ปี 59-62) หรือ ROE บริษัทสามารถทำได้เฉลี่ยสูงถึง 14.5%!! บ่งชี้ว่า ผลตอบแทนที่บริษัทส่งมอบให้แก่นักลงทุน นั้นสูงกว่า Dilution ในระดับเกินกว่า 3 เท่าตัวนั่นเอง

ฉะนั้นราคาของ MINT-W7 ที่ถูกกำหนดนั้นไม่ได้บ่งบอกถึงราคาหุ้นในอนาคต แต่จะเป็นรางวัลและผลตอบแทนที่บริษัทให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ MINT  และนักลงทุนสามารถประเมินความคุ้มค่าในการใช้สิทธิ์แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ทุกวันที่ 15 ของเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม พฤศจิกายน ของทุกปีตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ  โดยวันใช้สิทธิครั้งแรกจะตรงกับวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563

พร้อมกันนี้อย่าลืมวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record Date)  คือ วันที่ 7 สิงหาคม 2563 ดังนั้น วันซื้อขายสุดท้ายที่นักลงทุนจะได้รับสิทธิในการได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ คือวันที่ 5 สิงหาคม 2563

เมื่อเห็นข้อมูลสำคัญเช่นนี้แล้ว ก็อยู่ที่ตัวนักลงทุนเล็งเห็นโอกาสในการลงทุนหุ้น MINT เหมือนกับที่มีการตั้งสมมุติฐานแค่ไหน?