PTTGC ลุยเจรจาพันธมิตรใหม่หลัง “แดลิม” ถอนตัว ยันไม่กระทบแผนลงทุน

PTTGC ลุยเจรจาพันธมิตรใหม่หลัง “แดลิม” ถอนตัว ยันไม่กระทบแผนลงทุน


นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า บริษัทจะเดินหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐตามแผนงาน แม้ล่าสุด Daelim Industrial Co.,Ltd. (DAELIM) พันธมิตรจากเกาหลีใต้จะขอถอนตัวจากแผนร่วมทุน 50% ในโครงการ โดยหลังจากนี้บริษัทจะเจรจากับผู้ที่สนใจรายใหม่ให้เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมทุน เบื้องต้นแผนการลงทุนยังไม่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากมองว่าเป็นโครงการที่ดี และคาดว่าจะสรุปแผนงานทั้งหมดได้ตามเป้าหมายในช่วงครึ่งหลังของปี 64

“โครงการอเมริกาเราก็ delay อยู่แล้ว จะตัดสินว่าจะทำหรือไม่ทำประมาณครึ่งหลังปี 64  เพราะว่าโควิดต้อง delay ข่วงนี้ก็ถือโอกาสเจรจาผู้รับเหมา หาเงิน โน่นนั่นนี่…(DAELIM) เขาขอถอน อันนั้นคือ fact แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก เพราะที่ผ่านมามีคนอยากร่วมเยอะแยะ แต่เราไม่ได้คุยเพราะมี partner อยู่แล้ว ทีนี้พอเกาหลีเขาถอน เราก็กลับไป resume การคุยกับคนอื่นที่เขาสนใจ เนื่องจากโครงการ delay อยู่แล้ว ก็มีเวลาคุยไม่มีปัญหา ไม่ได้ทำให้ delay มากขึ้นหรือน้อยลง แต่อย่างไรเราไม่ทำคนเดียวอยู่แล้ว เราต้องหา partner” นายคงกระพัน กล่าว

โดยก่อนหน้านี้ PTTGC มีเป้าหมายการสร้างบ้านแห่งที่ 2 ผ่านโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ DAELIM บริษัทยักษ์ใหญ่ในด้านธุรกิจก่อสร้างและเคมีภัณฑ์จากเกาหลีใต้ ฝ่ายละ 50% เพื่อผลิตเอทิลีน 1.5 ล้านตัน/ปี และ HDPE 1.5 ล้านตัน/ปี เนื่องจากสหรัฐมีศักยภาพการแข่งขันด้านวัตถุดิบและตลาดเติบโต แต่เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัททบทวนแผนลงทุนหลังจากเกิดวิกฤติโควิด-19 พร้อมเลื่อนการลงทุนที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน รวมถึงการสรุปแผนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐเลื่อนจากไตรมาส 3/63 ไปเป็นปี 64

นายคงกระพัน กล่าวอีกว่า การหาพันธมิตรร่วมทุนใหม่คงไม่ยากมาก เพราะที่ผ่านมามีผู้สนใจหลายราย ประกอบกับเป็นโครงการที่ดี โดยคาดว่าพันธมิตรใหม่จะเป็นบริษัทต่างชาติที่มีความเข้าใจธุรกิจปิโตรเคมี และมีความพร้อมในการลงทุน และบริษัทน่าจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในโครงการ ซึ่งเบื้องต้นการออกแบบโรงงานเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาหาผู้รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงเงินกู้ที่ใช้ในโครงการ ซึ่งการเลื่อนระยะเวลาตัดสินใจลงทุนออกไปก็ทำให้มีเวลามากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อมูลค่าก่อสร้างโครงการให้ลดลงด้วย

“โครงการไม่มีอะไรเปลี่นแปลง เป็นโครงการที่ดี แต่เราต้องระมัดระวังก็เลยต้องเลื่อนการตัดสินใจไปก่อน แล้วถือโอกาสเจรจาโน่นนั่นนี่ ค่าก่อสร้างก็ว่าไป การหา partner ก็ต้องเลือกดี ๆ เราสามารถทำคู่ขนานกันไปได้ไม่มีปัญหา วันนี้ก็ทำหลาย ๆ อย่างควบคู่กันไป มูลค่าลงทุนควรจะลดลงด้วยเพราะสถานการณ์โควิด และเศรษฐกิจโลกถดถอย ราคา Commodity เหล็ก ก็ควรจะลดลงเราก็ต้องไปเจรจา  เราต้องเจรจาผู้รับเหมา เจรจาให้ถูกลงแน่ ๆ ไม่มากก็น้อย ตอนนี้ design เสร็จแล้ว ปรับที่ดินแล้ว แต่ยังไม่ได้จ้างผู้รับเหมาทำก่อสร้าง โชคดีที่มีโควิดก็จะได้ราคาถูกลง” นายคงกระพัน กล่าว

 

Back to top button