โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” PTTGC มองผลงาน Q2 มีกำไร 1.7 พันลบ. รับราคาน้ำมันฟื้น

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ภายหลังมีนักวิเคราะห์ประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ PTTGC ในงวดไตรมาส 2/63 จะเติบโตดีกว่าในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3

โดยบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ ระบุคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTTGC เนื่องจากมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปีนี้ และความเป็นไปได้ที่โครงการ Ethane Cracker (Ohio) ในสหรัฐฯ เลื่อนการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final investment decision: FID) ออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี หลัง Daelim Chemical USA ถอนตัวจากการลงทุนในโครงการดังกล่าว โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 58 บาท

ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 1.69 พันล้านบาท พลิกจากไตรมาส 1/63 ที่มีผลขาดทุน 8.78 พันล้านบาท เนื่องจากการรับรู้ Stock loss ที่ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 ที่มีผลขาดทุนจาก Stock มากถึง 8.9 พันล้านบาท เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ

รวมทั้งการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ลดลงจากสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้บริษัทปรับลดกำลังกลั่นลง อย่างไรก็ตามการดำเนินงานปกติกลับมาฟื้นตัวจากค่าการกลั่น ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ฟื้นตัว เพียงพอชดเชยราคา HDPE จะปรับดลงกว่า 9.4% เทียบกับไตรมาสก่อน

ด้านธุรกิจหลักเริ่มกลับมาฟื้นตัวหนุนกำไรปกติในไตรมาส 3/63 โดยปัจจุบันราคา HDPE ในช่วงไตรมาส 3/63 อยู่ที่ 890 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 17.1% จากไตรมาสก่อน

ขณะที่ส่วนต่างราคา HDPE ทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 500 เหรียญต่อตัน ขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบเริ่มลดลง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงต่อประมาณการผลประกอบการปี 2563 ยังคงมีอยู่จากการฟื้นตัวของค่าการกลั่นที่ล่าช้ากว่าคาด และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ โควิด-19

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTTGC ด้วยราคาเป้าหมาย 55.25 บาท/หุ้น จากมูลค่าที่ถูก โดยตลาด PE ของเอเชียที่เอื้อประโยชน์และกำไรธุรกิจหลักที่คาดฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2563

พร้อมกันนี้ คาดกำไรไตรมาส 2/2563 จะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  ซึ่งภาพรวมจะดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไปจากราคา PE และกำไรจากสต็อกน้ำมันที่สูงขึ้น

ขณะที่ FID ของโครงการ gas cracker ในสหรัฐฯ ของ PTTGC อาจเลื่อนออกไปอีก 1-2 ปี จากการถอนตัวของพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง Daelim