บอร์ด CWT ไฟเขียวลุยโครงการบริหารจัดการขยะชุมชน มูลค่ากว่า 300 ลบ. หวังต่อยอดโรงไฟฟ้า
บอร์ด CWT ไฟเขียวลุยโครงการบริหารจัดการขยะชุมชน มูลค่ากว่า 300 ลบ. หวังต่อยอดโรงไฟฟ้า
บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนในโครงการบริหารจัดการและการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนลงทุนโดยเอกชน เทศบาลนครสวรรค์ ที่มีมูลค่าโครงการ 325.80 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนผ่าน บริษัท กรีน เพาเวอร์ 1 จำกัด (GP1) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท มีสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 75.009% และเป็นผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ดำเนินโครงการ ตามหนังสือแจ้งลงนามในสัญญาลงวันที่ 22 ก.ค.63 ซึ่ง GP1 จะเข้าทำสัญญาให้สิทธิเอกชนในการดำเนินโครงการ และคาดว่าจะเริ่มเข้าดำเนินโครงการภายในเดือนส.ค.63
สำหรับโครงการบริหารจัดการและการกำจัดขยะมูลฝอยดังกล่าว เป็นการดำเนินโครงการในเขตเทศบาลนครสวรรค์ ซึ่งปัจจุบันมีขยะมูลฝอยชุมชนประมาณวันละ 170-200 ตัน และมีขยะบ่อฝังกลบภายในศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ณ ตำบลบ้านมะเกลือประมาณ 1 ล้านตัน เทศบาลนครสวรรค์จึงต้องปรับปรุงระบบกำจัดขยะมูลฝอยและเพิ่มความสามารถในการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนให้เพียงพอต่อปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง GP1 จะเข้าดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอย โดยเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงพลังงาน Refuse Derived Fuel (RDF) กำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 30 ตัน/ชั่วโมง และไม่น้อยกว่า 400 ตัน/วันอีกด้วย
อนึ่ง GP1 จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ โดยมีกลุ่มบริษัทถือหุ้น 75.009% ร่วมกับบริษัท แซดดับบลิวเพาเวอร์ จำกัด (ZW) ซึ่งถือหุ้น 24.990% เบื้องต้น GP1 จะต้องมีโครงการบริหารและการกำจัดขยะมูลฝอยก่อน ซึ่ง GP1 ได้เข้าดำเนินโครงการดังกล่าวผ่านโครงการที่นครสวรรค์ในครั้งนี้ ซึ่งเงินลงทุนโครงการดังกล่าวจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 70% และจากส่วนของผู้ถือหุ้น 30%
ทั้งนี้ บริษัทถือให้โครงการนี้เป็นการลงทุนในการแปลงขยะมูลฝอยชุมชนและขยะบ่อฝังกลบเป็นเชื้อเพลิง RDF เป็นโครงการเบื้องต้น เพื่อต่อยอดไปสู่โรงไฟฟ้าจาก RDF ขนาด 10 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านพลังงานเชิงพาณิชย์และสัญญาขายให้กับการไฟฟ้า ที่นอกจากจะเป็นการลงทุนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนและตอบสนองนโยบายในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานแก่ประเทศและส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ชุมชนโดยรวมอีกด้วย