STANLY รถทับกำไร.!
บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY แม้ไม่ใช่หุ้นพิมพ์นิยมของนักลงทุน หลายคนไม่รู้จัก เนื่องจากสภาพคล่องต่ำ แถมราคาสูง เทรดกันที่ 150 กว่าบาท เกินเอื้อมสำหรับรายย่อย...
สำนักข่าวรัชดา
บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY แม้ไม่ใช่หุ้นพิมพ์นิยมของนักลงทุน หลายคนไม่รู้จัก เนื่องจากสภาพคล่องต่ำ แถมราคาสูง เทรดกันที่ 150 กว่าบาท เกินเอื้อมสำหรับรายย่อย…
แต่จริง ๆ แล้วหุ้นตัวนี้จัดเป็นหุ้นที่น่าสนใจตัวหนึ่ง…มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้ระดับหมื่นล้าน ส่วนกำไรเกือบแตะ 2 พันล้าน โดยจะเติบโตไปกับยอดขายรถยนต์ เนื่องจากเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ส่องสว่างยานยนต์ เช่น หลอดไฟ ชุดโคมไฟ
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีสะดุดไปครั้งหนึ่งก็ตอนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 โรงงานถูกน้ำท่วม จนพลิกมาขาดทุน แต่ก็ทำให้หุ้น STANLY เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย…หุ้น STANLY ก็เงียบหายไป
หุ้น STANLY ถูกพูดถึงอีกครั้ง…หลังจากอุตสาหกรรมยานยนต์เจอพิษโควิดขวิดไปเต็ม ๆ จนส่งผลให้ยอดส่งออกรถยนต์เดือน มิ.ย. 2563 อยู่ที่ 50,549 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 48.71% เป็นการลดลงทุกตลาด และมีมูลค่าการส่งออก 29,238.83 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 43.06%
ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 2563) มียอดส่งออกรถยนต์รวมทั้งสิ้น 350,550 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.39% มูลค่าการส่งออก 187,979.53 ล้านบาท ลดลง 34.09%
ขณะที่ ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือน มิ.ย. 2563 มีทั้งสิ้น 71,704 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 58.52% จากการผลิตเพื่อส่งออกที่ลดลง 49.19% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ลดลง 67.39% ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 606,132 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 43.14%
เมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์ทรุดหนัก…STANLY ถูกมองว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน..? แค่เป็นแผลถลอกปอกเปิก หรือต้องนอนไอซียู
ปากฏว่าเจ็บหนัก…ซึ่งบังเอิ๊ญบังเอิญงบไตรมาส 1/2563 (เม.ย.-มิ.ย.) ของ STANLY เจอพิษโควิดพอดิบพอดี ทำให้ยอดขายและการผลิตลดลงอย่างมากจนต่ำกว่า Economical of Scale ในการผลิต โดยมียอดขาย 1,718 ล้านบาท ลดลง 1,700 ล้านบาท หรือ 49.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 3,418 ล้านบาท
ในส่วนของรถยนต์มีการผลิต 152,450 คัน ลดลง 69.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดการผลิต 504,458 คัน แบ่งเป็นยอดส่งออก 100,269 คัน ลดลง 61.44% ส่วนยอดขายภายในประเทศ 128,540 คัน ลดลง 50.60%
ส่วนรถจักรยานยนต์มียอดการผลิต 206,005 คัน ลดลง 55.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดการผลิต 463,589 คัน โดยมียอดขายในประเทศ 301,159 คัน ลดลง 30.25%
ในขณะที่ต้นทุนยังคงที่ ไม่ว่าจะเป็นค่าเสื่อมราคา ค่าแรง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เนื่องจากยังเปิดดำเนินงานปกติ
ส่งผลให้พลิกมาขาดทุนสุทธิ 184 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 334 ล้านบาท
STANLY จึงตกอยู่ในสถานการณ์รถทับกำไรไปโดยปริยาย…
เป็นการออกสตาร์ตที่ไม่ดีเลย…ในขณะที่ค่ายอื่น ๆ มีกระสุนตุนไว้แล้วจากไตรมาส 1/2563 (ม.ค.-มี.ค.) ที่ยังดีอยู่…แต่ STANLY ประเดิมไตรมาสแรกมาก็แย่เลย
ทำให้สุ่มเสี่ยงว่าปีนี้อาจปิดสถานะด้วยตัวเลขขาดทุนอีกครั้ง เนื่องจากวิกฤติครั้งนี้น่าจะหนักหนาสาหัส เพราะไม่ใช่แค่ตลาดในประเทศเท่านั้น แต่เป็นทั้งโลก…
ก็น่าติดตามว่าไตรมาส 2 STANLY จะฟื้นหรือไม่ หลังจากหลาย ๆ ประเทศเริ่มคลายล็อกดาวน์
แต่เอ๊ะ..!! ดูสภาพ STANLY เป็นอย่างนี้…มันทำให้นึกถึงหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์ตัวอื่น ๆ เช่น บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH และ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ซึ่งจะประกาศงบไตรมาส 2/2563 (เม.ย.-มิ.ย.) เร็ว ๆ นี้
สภาพน่าจะไม่ต่างกัน…ว่ามะ..!!
…อิ อิ อิ…