AUCT พุ่งชนซิลลิ่ง-นิวไฮรอบ 10 เดือน ลุ้นกำไรปีนี้โตเด่น-แนะซื้อเคาะเป้า 9.60 บ.
AUCT พุ่งชนซิลลิ่ง-นิวไฮรอบ 10 เดือน ลุ้นกำไรปีนี้โตเด่น-แนะซื้อเคาะเป้า 9.60 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT ณ เวลา 11.53 น. อยู่ที่ระดับ 9.10 บาท บวก 1.15 บาท หรือ 14.47% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 239.55 ล้านบาท ราคาพุ่งชนซิลลิ่งขอวันที่ระดับ 9.10 บาท ราคาหุ้นวิ่งแรงในรอบ 10 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 9.40 บาท เมื่อวันที่ 7 ต.ค.62
ด้านนายสุวิทย์ ยอดจรัส กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AUCT เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 63 จะเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 812.58 ล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวลง ส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงมีรถถูกนำออกมาประมูลมากขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง และ มีโอกาสที่จะดีไปตลอดทั้งปี
สำหรับรถที่เตรียมเข้าสู่ระบบประมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมีทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมถึงรถด้านการเกษตร ซึ่งเพิ่มขึ้นมาถึง 100%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีผลกระทบกับการประมูลในสถานที่จริง แต่บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์มาเป็นการประมูลผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีและมีผู้เข้าร่วมประมูลมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มของรายย่อยที่สมัครเข้ามาประมูลเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ทำให้บริษัทมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพในการประมูลในระบบออนไลน์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้เกิดความคล่องตัวในการประมูล การชำระเงิน และการดำเนินงานโดยรวม
ด้าน บล.ฟิลลิป แนะคงคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องด้วยธุรกิจหลักของบริษัทอิงไปกับจำนวนรถจบประมูล ดังนั้นทางฝ่ายจึงมีมุมมองบวกต่อบริษัทจากผลกระทบของ COVID-19 ที่ทำให้จำนวนรถที่สถาบันการเงินอาจยึดได้มีมากขึ้น จึงยังคงกำไรปกติปี 63 ที่ 251 ล้านบาท (กำไรปกติไตรมาส 1/63 คิดเป็น 25% ของประมาณการทั้งปี)
บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุว่า AUCT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.6 บาท) คาดกำไรสุทธิทั้งปีของบริษัทจะเติบโตได้ 12.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าดีกว่าหลายๆอุตสาหกรรมที่อาจเผชิญกับผลประกอบการติดลบเมื่อ เทียบกับปีก่อน หรือ ขาดทุนหนัก ด้านผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีคาดไตรมาส 2/63 อาจอ่อนตัวเล็กน้อยเทียบไตรมาสก่อนหน้าตามปัจจัยฤดูกาล อย่างไรก็ตามคาดเป็นจุดต่ำสุดของปีและจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่เข้าไตรมาส 3/63