AMATA เดินหน้าเอาผิดผู้แอบอ้างชื่อ-เครื่องหมายการค้าแสวงผลประโยชน์โดยมิชอบ

AMATA เดินหน้าเอาผิดผู้แอบอ้างชื่อ-เครื่องหมายการค้าแสวงผลประโยชน์โดยมิชอบ


นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคล ห้างร้าน กลุ่มธุรกิจ ที่มีการนำชื่อ “อมตะ” หรือ AMATA ไปใช้หรือจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดำเนินธุรกิจที่มีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่มอมตะ รวมถึงนำไปใช้แสวงหาประโยชน์ทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการละเมิด สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ บริษัทได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “อมตะ” ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2549 และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทยโดยชอบด้วยกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว

ดังนั้น การใช้ หรือ แอบอ้าง เครื่องหมายการค้า หรือ อักษรข้อความคำว่า “อมตะ” และ AMATA ในการผลิตและจำหน่าย สินค้า และ/หรือบริการใดๆ รวมถึงการเป็นผู้เกี่ยวข้อง หรือเป็นผู้ดำเนินการลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ และ/หรือใช้ประโยชน์จากเครื่องหมายและ/หรือข้อความดังกล่าวข้างต้นโดยก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเล็งเห็นได้ว่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภคหรือบุคคลทั่วไปว่าเป็นกิจการหรือการกระทำของ AMATA โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย

“ทีมกฏหมายของบริษัทฯ ได้ดำเนินการสำรวจกลุ่มธุรกิจทั้งที่จดทะเบียน และไม่ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการกับกระทรวงพาณิชย์ และเปิดดำเนินกิจการประเภทธุรกิจใกล้เคียงกับกลุ่มอมตะ เช่น การซื้อ-ขาย ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ การให้บริการด้านอื่นๆ รวมถึงสื่อออนไลน์ ออฟไลน์ พบว่ามีกลุ่มธุรกิจจำนวนมากที่นำชื่อของอมตะ AMATA หรือ อมตะซิตี้

รวมถึงเครื่องหมายการค้าไปใช้ ส่งผลให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากนักลงทุนและผู้เข้ารับบริการว่าเป็นธุรกิจของกลุ่มอมตะ ดังนั้นเพื่อการปกป้อง ปราบปรามและรักษาไว้ซึ่งสิทธิของบริษัทฯ จึงเตรียมดำเนินการทางกฏหมายกับกลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าวนับจากบัดนี้เป็นต้นไป” นายวิบูลย์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทขอให้ยุติในการกระทำดังกล่าวโดยทันที หากพบว่ายังมีการฝ่าฝืน บริษัทฯ จะทำการส่งหนังสือชี้แจง ถึงผู้ประกอบการ และหากยังคงมีผู้ฝ่าฝืนและ/หรือละเมิดสิทธิดังกล่าว บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา กับผู้กระทำความผิดอย่างถึงที่สุด

Back to top button