SVI ทุ่ม 670 ลบ.ลุยขยายโรงงานยุโรป-กัมพูชา รับดีมานด์อิเล็กทรอนิกส์พุ่ง
SVI ทุ่ม 670 ลบ.ลุยขยายโรงงานยุโรป-กัมพูชา รับดีมานด์อิเล็กทรอนิกส์ คาดหนุนผลงานปีนี้โต
นายสมชาย สิริปัญญานนท์ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI เปิดเผยว่า บริษัทลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ด้านการผลิตรวมวงเงิน 21.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 670 ล้านบาท เพื่อขยายฐานการผลิตในยุโรปและกัมพูชา รองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูปที่เติบโต ซึ่งจะช่วยผลักดันผลงานปีนี้ขยายตัวได้ตามแผน
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ต้นปีนี้ ด้วยการซื้อที่ดินและอาคารผลิต เนื้อที่รวม 7,300 ตารางเมตร ในประเทศออสเตรีย คิดเป็นจำนวน 6.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 205 ล้านบาท และจะใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 465 ล้านบาท เพื่อลงทุนขยายพื้นที่โรงงานที่ประเทศสโลวาเกียอีก 4,500 ตารางเมตร จากเดิมมีพื้นที่ 7,640 ตารางเมตร เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องใช้เทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนในการกระบวนการผลิตสูง ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่นำไปใช้ในอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในยานยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสื่อสารคมนาคม ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกของปี 64
นอกจากนี้ยังได้ลงทุนขยายพื้นที่ผลิตสินค้าอีก 10,000 ตารางเมตร ในโรงงานประเทศกัมพูชา จากเดิมมีพื้นที่ 9,200 ตารางเมตร เพื่อผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม และระบบเครือข่ายไร้สายสำหรับการสื่อสาร คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/64 ซึ่งจะช่วยให้บริษัทขยายฐานลูกค้าในประเทศจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ฐานการผลิตในกัมพูชายังได้สิทธิทางภาษีและการค้าจากสหรัฐอเมริกาที่ได้เปรียบ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค จึงเป็นฐานการผลิตที่สามารถดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ได้เป็นอย่างดี
สำหรับการลงทุนในครั้งนี้ ได้ช่วยยกระดับคุณภาพและความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อนในการกระบวนการผลิต ทำให้ SVI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์และรองรับการรุกขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่ ๆ เพิ่มเติมในแต่ละภูมิภาค รวมถึงการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากที่ตั้งของฐานการผลิตได้อย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ของลูกค้า
“ปัจจุบันเราใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยสูงถึง 80% จากกำลังการผลิตโดยรวมทั้งหมด เราจึงต้องวางแผนเตรียมความพร้อมด้านฐานการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ตามสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในหลายประเทศ ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของ SVI ในระยะยาว” นายสมชาย กล่าว