ORI วิ่งแรง 6% หลังโชว์ยอด “พรีเซล” ไตรมาส 3 ดีเกินคาด โบรกฯ เคาะเป้า 9.70 บ.

ORI วิ่งแรง 6% หลังโชว์ยอด “พรีเซล” ไตรมาส 3 ดีเกินคาด โบรกฯ เคาะเป้า 9.70 บ. ล่าสุดอยู่ที่ 6.75 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 6.30% มูลค่าซื้อขาย 81.09 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ล่าสุด ณ เวลา 11.44 น. อยู่ที่ 6.75 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 6.30% สูงสุดที่ 6.85 บาท ต่ำสุดที่ 6.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 81.09 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ORI ราคาเป้าหมาย 9.70 บาท/หุ้น โดยยอด Presales ไตรมาส 3/63  ยังดีต่อเนื่อง (เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบจากไตรก่อน) รวม 9 เดือนแรกปี 2563 ทำได้ 88% จากที่ ORI ตั้งเป้าไว้

โดยยอด Presales ไตรมาส 3/63 ยังทำได้ดีกว่าที่บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดไว้ที่ประมาณ 7 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือน ก.ค. ถึงกลางเดือน ก.ย. ที่ทำได้ 6 พันล้านบาท) เป็นผลจากโครงการใหม่ที่เปิดตัวสามารถทำยอด Presales ได้โดดเด่น ได้แก่ 1) The Origin อ่อนนุช มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท Sold out และ 2) KnightsBridge Space พระราม 4 (ยังไม่ official launch) มูลค่าโครงการ 2.3 พันล้านบาท ทำยอด Presales ล่วงหน้า ได้แล้ว 70% ขณะที่โครงการพร้อมอยู่ (ready to move) ยังทำยอด Presales ได้ดีต่อเนื่อง

ขณะที่แนวโน้ม Presales ในงวดไตรมาส 4/63 จะยังทำได้ดีต่อเนื่อง จากแผนการเปิดตัวคอนโดใหม่อีก 4-5 โครงการ ซึ่งส่งผลให้เราประเมินว่า Presales จะปีนี้ทำได้ราว 2.7-2.8 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน และสูงกว่าเป้าหมายที่ ORI ประเมินไว้ที่ 2.15 หมื่นล้านบาท

โดยเบื้องต้นประเมินกำไรปกติไตรมาส 3/63 จะทำได้ราว 700-800 ล้านบาท (กำไรปกติไตรมาส 3/62 อยู่ที่ 652 ล้านบาท, ไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 707 ล้านบาท) แนวโน้มจะเติบโตทั้งเมื่อเทียบจากปีก่อนและเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน

ขณะที่กำไรไตรมาส 4/63 ยังมีโอกาสดีขึ้นจากแผนการโอนคอนโดใหม่ที่เพิ่มขึ้น จากที่ประเมินกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 2.7 พันล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบจากปีก่อน ส่วนกำไรปกติจะอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ลดลง 2% เมื่อเทียบจากปีก่อน ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ปรับตัวลง 30% เมื่อเทียบจากปีก่อน

ส่วนในปี 2564 คาดกำไรปกติจะกลับมาเติบโตเป็น 3.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยมีจุดเด่นจาก backlog ที่รอโอนครอบคลุมรายได้ปี 2563-2564 ที่สูงมากกว่า 92% และ 64% ตามลำดับ

Back to top button