SIAM ลุยโซล่ารูฟท็อป 1 MW ใน Q4/58 คาดเริ่มจ่ายไฟเดือน มี.ค.59
SIAM ลุยโซล่ารูฟท็อป 1MW ใน Q4/58 เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรงงาน คาดเริ่มจ่ายไฟเดือน มี.ค.59 เล็งต่อยอดพลังงานทดแทนทั้งใน-ตปท.
นายสุรพล คุณานันทกุล รองผู้อำนวยการ บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ SIAM เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นในโครงการการพัฒนากลไกเครดิตร่วม (Joint Crediting Mechanism: JCM) สำหรับการติดตั้งโซล่ารูฟท็อป ซึ่งเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ SIAM มองว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นโครงการนำร่องไปสู่การลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนอื่นๆ ของบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศในอนาคต
“SIAM นับเป็นบริษัทของไทยรายแรกที่ได้รับคัดเลือกเข้าโครงการติดตั้งโซล่ารูฟท็อปของ JCM ซึ่งนอกจากบริษัทจะได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนแล้ว ก็ยังได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านพลังงานทางเลือกที่ดีที่สุดจากญี่ปุ่นด้วย ขณะที่บริษัทมีประสบการณ์ร่วมทำธุรกิจกับพันธมิตรญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน จึงมีความพร้อมที่จะดำเนินโครงการ” นายสุรพล กล่าว
สำหรับโซล่ารูฟท็อปโครงการแรกจะติดตั้งในโรงงานที่ จ.สมุทรปราการ ราวไตรมาส 4/58 มีขนาดกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรงงาน คาดเริ่มจ่ายไฟภายในเดือน มี.ค.59 ทำให้สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 6.5 ล้านบาทต่อปี โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะสนับสนุนเงินทุนสูงสุดถึง 50% ของมูลค่าลงทุน ซึ่งภายใต้โครงการนี้บริษัทจะส่งมอบคาร์บอนเครดิตที่เกิดจากการดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภายใต้กลไกนี้เป็นเวลา 10 ปี
ทั้งนี้ JCM คัดเลือกให้ SIAM เข้าร่วมโครงการติดตั้งโซล่ารูฟท็อป ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ดำเนินการมานานหลายปีแล้ว และให้การสนับสนุนโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อม(Ministry of the Environment Japan)ภายใต้รัฐบาลญี่ปุ่น โดย JCM ยังมีโครงการที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศอื่นๆ นอกญี่ปุ่น เช่น ประเทศกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ด้วย ขณะที่ SIAM กำลังศึกษาที่จะลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่ง SIAM สามารถเสนอโครงการต่อ JCM เพื่อรับเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 50% ของเงินลงทุนแต่ละโครงการ
ขณะที่บริษัทกำลังศึกษาที่จะลงทุนโครงการโซล่าเซล และรวมถึงธุรกิจพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่นไบโอแมส หรือโรงไฟฟ้าชนิดต่างๆ ทั้งในไทยและประเทศอื่นๆในอาเซียน โดยมีเป้าหมายขายไฟฟ้าให้ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูง ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่น่าสนใจเข้าไปลงทุน เช่น กัมพูชา และเมียนมาร์ ที่ยังขาดแคลนพลังงาน
โดยโซล่ารูฟท็อปที่จะนำมาติดตั้งในโรงงานของบริษัทนั้น เป็นแผงจาก Panasonic รุ่นที่มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟได้สูงสุด 19.4% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลก เทียบกับแผงที่ใช้กันทั่วไปขณะนี้เฉลี่ยทำได้เพียง 16% และแผงนี้มีการรับประกันเป็นเวลา 25 ปี หลัง จากนั้นยังมีประสิทธิภาพในการใช้งานได้อีก 80% เป็นเวลาหลายสิบปี จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า