BOL 5 ปีไปซะแล้ว.!
กรณีกลุ่ม Keppel เตรียมล้างพอร์ตหุ้นบริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ที่ถืออยู่ 24.01% โดยแบ่งขายให้กับ CTOS Holdings Sdn. Bhd สัดส่วน 20% และ “มินทร์ อิงค์ธเนศ” อีก 4.01% ได้เงินเข้ากระเป๋าไปราว 827.6 ล้านบาท...ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เกิดอะไรขึ้นกับ BOL และกลุ่มทุนกลุ่มนี้..?
สำนักข่าวรัชดา
กรณีกลุ่ม Keppel เตรียมล้างพอร์ตหุ้นบริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ที่ถืออยู่ 24.01% โดยแบ่งขายให้กับ CTOS Holdings Sdn. Bhd สัดส่วน 20% และ “มินทร์ อิงค์ธเนศ” อีก 4.01% ได้เงินเข้ากระเป๋าไปราว 827.6 ล้านบาท…ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เกิดอะไรขึ้นกับ BOL และกลุ่มทุนกลุ่มนี้..?
ทั้ง ๆ ที่ Keppel เข้ามาถือ BOL ตั้งแต่ปี 2558 ตั้งใจจะลงทุนระยะยาว เนื่องจาก BOL ซึ่งทำธุรกิจวางระบบไอที และเป็นที่ปรึกษาด้านไอที เป็นหุ้นเทคฯ ตัวหนึ่งที่เป็นเมกะเทรนด์…ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาก็เติบโตดี อัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงกว่า 20% แถมเงินปันผลก็สูง ยีลด์เฉลี่ย 4-5% ต่อปีอีกต่างหาก…
ถือมาตั้ง 5 ปี อยู่ ๆ ก็ขายทิ้งแบบไม่มีเยื่อใยซะงั้น…เอ๊ะ..!! มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่าน้อ..?
แต่จะว่าไปนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน Keppel ก็เคยขายหุ้นบริษัท เคปเปล ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KTP (แปลงร่างมากจากบริษัท ไฟว์สตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)) แบบยกเข่งให้กลุ่มทุนฮ่องกงมาแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KWG ในปัจจุบัน…
ที่จริงนอกจาก Keppel ถือหุ้นใหญ่ BOL แล้ว ก็ยังถือหุ้นอีกหลาย ๆ บริษัทในตลาดฯ เช่น ถือหุ้นใหญ่บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVOA โดยถือผ่าน Apsilon Ventures Pte. Ltd. และ BNP Paribas Wealth Management Singapore Branch รวมสัดส่วน 31.94% และถือหุ้นใหญ่บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ในนาม BNP PARIBAS SECURITIES (ASIA) LTD-FOR COLAS สัดส่วน 31.09%…
ก็น่าคิดว่า Keppel จะล้างพอร์ตบริษัทไหนอีกบ้าง..? งานนี้คงมีแอบเสียวสันหลังกันบ้างแหละ…
อีกจุดที่น่าสนใจ Keppel เป็นกลุ่มทุนสัญชาติสิงคโปร์ ที่ก่อนหน้านี้หลั่งไหลเข้ามาล่าอาณานิคมในประเทศไทยในยุคฟองสบู่ปี 2540 แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นการถอยกรูดของกลุ่มทุนสิงคโปร์
เห็นได้ชัดกรณีกลุ่ม GIC (GIC Private Limited) ที่ทยอยขายหุ้นหลาย ๆ ตัว ไล่มาตั้งแต่ปี 2560 ล้างพอร์ตหุ้นบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ตามด้วยบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ซึ่งผูกพันมาเกือบ 20 ปี ก็ขายทิ้งแบบไร้เยื่อใย รวมทั้งเมื่อต้นปี 2563 ก็ตัดขายหุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ออกไปบางส่วน…
แล้วล่าสุด Keppel ก็จะทิ้ง BOL อีก…ส่วนก่อนหน้านี้ที่ไปจับมือกับ KPN Land ตั้งบริษัทร่วมทุนบริษัท เคพีเอ็น-เคปเปล อัลลายซ์แอนซ์ จำกัด เพื่อรุกตลาดอสังหาฯ ในไทย ก็ดูเงียบไป…
ดูจากสถานการณ์แล้วทำให้อดคิดไม่ได้ว่ากลุ่มทุนสิงคโปร์จะถอนทัพจากบ้านเราแล้วหรืออย่างไร..?
ตอกย้ำด้วยอีกกลุ่มที่หลายคนจับตามองในขณะนี้ นั่นคือ กลุ่มเทมาเส็กในนามสิงเทล ที่ก่อนหน้านี้ปรับโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH มาแล้วหลายรอบ ประจวบเหมาะกับมีทุนใหญ่จากไทยเข้ามาถือ INTUCH พอดิบพอดี…
ไม่แคล้วถูกมองว่าสิงเทลต้องการถอยฉากจาก INTUCH ใช่หรือไม่..?
นั่นแสดงว่าตลาดอสังหาฯ รวมทั้งตลาดเทคโนโลยีในบ้านเราถึงจุดอิ่มตัวแล้วน่ะสิ หรือผลตอบแทนไม่ได้เย้ายวนใจเหมือนในอดีตหรือเปล่า..?
กลุ่มทุนใหญ่พวกนี้ จึงเริ่มปันใจไปแสวงหาโอเอซีส แหล่งใหม่…
ก็เป็นธรรมดาของกลุ่มทุนใหญ่ที่หากมองว่าแหล่งไหนให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า คุ้มค่ากว่า ก็พร้อมที่จะขนเงินเข้าไปลงทุน…ส่วนรายย่อย เบี้ยน้อย หอยน้อย ก็ต้องทำใจ ทนรับเอฟเฟ็กต์ไปละกัน…
…อิ อิ อิ…