PTTEP กำไรไตรมาส 3 แตะ 7.2 พันลบ. ฟาก 9 เดือนโกย 2 หมื่นลบ.
PTTEP กำไรไตรมาส 3 แตะ 7.2 พันลบ. ฟาก 9 เดือนโกย 2 หมื่นลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รายงานกำไรงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
ทั้งนี้ หากเทียบกับไตรมาส 2/63 ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีกําไรสุทธิ 230 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้น 96 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 72 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 134 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากรายได้รวมเพิ่มขึ้น 210 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 187 ล้านดอลลาร์ สรอ. ฃ
รวมทั้งมีการรับรู้กำไรจากเครื่องมือทางการเงินในไตรมาส 3 ปี2563 จำนวน 27 ล้านดอลลาร์ สรอ. (ไตรมาส 2 ปี 2563 รับรู้ขาดทุน 78 ล้านดอลลาร์ สรอ.) ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 114 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักมาจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น 208 ล้านดอลลาร์ สรอ. สุทธิกับไม่มีการรับรู้ ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ (ไตรมาส 2 ปี 2563 รับรู้ขาดทุน 47 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่จากโครงการ มาเรี ยนา ออยล์ แซนด์)
โดยกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวน 230 ล้านดอลลาร์ สรอ. แบ่งเป็นกำไรจากการดำเนินงานปกติสำหรับไตรมาส 3 ปี2563จำนวน 195 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้น 67 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบ กับไตรมาส 2 ปี2563 ที่มีกำไร 128 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 187 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากราคาขายเฉลี่ยและ ปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จากค่าใช้ จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 84 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากรายได้ จากการขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้นและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 27 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามปริมาณการขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น สำหรับกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติในไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวน 35 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้น 29 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี2563 ที่มีกำไร 6 ล้านดอลลาร์ สรอ. สาเหตุหลักมาจากการรับรู้กำไรจากเครื่องมือทางการเงินใน ไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวน 27 ล้านดอลลาร์ สรอ. (ไตรมาส 2 ปี2563 รับรู้ขาดทุน 78 ล้านดอลลาร์ สรอ.)
โดยหลักจากสัญญาซื้อขาย อัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าและสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน ประกอบกับไม่มีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ (ไตรมาส 2 ปี 2563 รับรู้ขาดทุน 47 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่จากโครงการมาเรียนา ออยล์แซนด์) ในขณะที่ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จาก ผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นจำนวน 124 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ส่วนใหญ่เป็นผลจากการกลับรายการค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จากผลกระทบ ของอัตราแลกเปลี่ยนที่เคยรับรู้ไว้ในไตรมาสก่อนในจำนวนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2563 ซึ่งการกลับรายการภาษีดังกล่าวเป็นผลจากการเปลี่ยนสกุลเงินที่ใช้ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
ทั้งนี้ หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 358 ล้านดอลลาร์ สรอ. ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีกำไรลดลง 128 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 36 เนื่องจากรายได้รวมลดลง 288 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่จากรายได้ จากการขายที่ลดลง 266 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 160 ล้านดอลลาร์ สรอ.
โดยหลักมาจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดลง 54 ล้านดอลลาร์ สรอ. รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการสำรวจปิโตรเลียมลดลง 51 ล้านดอลลาร์ สรอ. และค่าภาคหลวงลดลง 31 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยกำไรสุทธิสำหรับ ไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวน 230 ล้านดอลลาร์ สรอ. แบ่งเป็นกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวน 195 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลง 108 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับ ไตรมาส 3 ปี 2562 ที่มีกำไร 303 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักจากรายได้จากการขายลดลง 266 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากราคาขายเฉลี่ยและ ปริมาณขายเฉลี่ยที่ลดลง
ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลงส่วนใหญ่จากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลง 69 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากรายได้จากการขายที่ลดลง รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการสำรวจปิโตรเลียมลดลง 51 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักเป็นผลจากการตัดจำหน่ายหลุมสำรวจที่ลดลง และค่าภาคหลวงลดลง 31 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามรายได้จากการขายในประเทศที่ลดลง กำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติสำหรับไตรมาส 3 ปี 2563 จํานวน 35 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลง 20 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2562 ที่มีกําไร 55 ล้านดอลลาร์ สรอ.
โดยสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 15 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เกิดจากการกลับรายการผลประโยชน์ทางภาษีที่เคยรับรู้ ไว้ในงวดบัญชีก่อนในไตรมาส 3 ปี 2563 จากการเปลี่ยนสกุลเงินในการคำนวณภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ประกอบกับมีการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 10 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากใน ไตรมาส 3 ปี 2563 เงินบาทอ่อนค่าลง 0.77 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในขณะที่ไตรมาส 3 ปี 2562 เงินบาทแข็งค่าขึ้น 0.15 บาทต่อดอลลาร์ สรอ
สำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดเดือนกันยายน 2563 ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 639 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลง 546 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดเดือนกันยายน 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 1,185 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากรายได้รวมลดลง 490 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ส่วนใหญ่จากรายได้จากการขายที่ลดลง 540 ล้านดอลลาร์ สรอ. รวมถึงมีการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 72 ล้านดอลลาร์ สรอ. สุทธิกับมีการรับรู้กำไรจากเครื่องมือทางการเงินในงวดเก้าเดือนสิ้นสุด เดือนกันยายน 2563 จำนวน 171 ล้านดอลลาร์ สรอ. (งวดเก้าเดือนสิ้นสุดเดือนกันยายน 2562 รับรู้ขาดทุน 68 ล้านดอลลาร์ สรอ.)
ประกอบกับ ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 56 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน รวมถึงค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้นและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 91 ล้านดอลลาร์ สรอ. และ 90 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามลำดับ