THIP เติบโตมั่นคง
THIP ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกโดยดำเนินงานมามากกว่า 42 ปี ซึ่งผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ถุงพลาสติก Resealable Bags
คุณค่าบริษัท
บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ THIP ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกโดยดำเนินงานมามากกว่า 42 ปี ซึ่งผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ถุงพลาสติก Resealable Bags (ถุงซิปชนิดเปิด-ปิดในตัว (Zipper), ถุง Slider) สัดส่วน 85% รวมถึงหลอดดูดเครื่องดื่มสัดส่วน 9% และส่วนที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
สำหรับผลิตภัณฑ์นั้นจัดจำหน่ายตามคำสั่งซื้อของลูกค้าและจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยลูกค้าหลักเป็นการส่งออกไปยังต่างประเทศสัดส่วน 89% อยู่ในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย เป็นต้น
ทั้งนี้ เนื่องด้วยผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่ THIP ทำการผลิต สอดคล้องกับสินค้าอุปโภคที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เช่น อาหารและเครื่องดื่ม โภคภัณฑ์อื่น ๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและภาคโลจิสติกส์
ดังนั้น จากผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันเชื่อว่าจะเห็น THIP เติบโตต่อเนื่องได้จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์มากยิ่งขึ้น จากความตระหนักถึงสุขอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการระบาดของโควิด-19 ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ที่ทำให้มีความต้องการบรรจุภัณฑ์ในการขนส่งและจัดจำหน่าย รวมไปถึงการยืดอายุของสินค้าและสะดวกต่อการบริโภค
รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเน้นความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น ต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กลง นำเข้าไมโครเวฟได้ กำจัดได้ง่าย
เห็นได้ชัดจากความต้องการในช่วงก่อนหน้า เพราะทำให้ผลการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้ดี
โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 905.67 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 781.11 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 115.92 ล้านบาท หรือ 1.45 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 78.63 ล้านบาท หรือ 0.98 บาทต่อหุ้น
ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,355.84 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,220.74 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 245.87 ล้านบาท หรือ 3.07 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 161.32 ล้านบาท หรือ 2.02 บาทต่อหุ้น
ขณะเดียวกันทาง บล.ทิสโก้ คาดกำไรสุทธิปี 2563 อยู่ที่ 329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากงวดเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้มองไปยังปี 2564-2566 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตราว 9.2% จากที่คาดว่ารายได้เติบโต 6-12.6% จากคำสั่งซื้อของลูกค้าที่ยังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และบริษัทมีการขยายกำลังการผลิตขึ้นเป็น 20% มาอยู่ที่ 32,880 ตันต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
พร้อมด้วยคาดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23% ในปี 2564 และ 22.7% ในปี 2565 อย่างไรก็ดี ลดลงจาก 23.3% ในปี 2563 แต่อยู่ในระดับที่สูงกว่าในอดีตที่ 19-20% จากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น และคาดเม็ดพลาสติกจะอยู่ในระดับที่ทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน
สุดท้าย คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ THIP อยู่ที่ 38 บาท
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- บริษัท ทานตะวัน จำกัด 45,115,000 หุ้น 56.39%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 11,485,182 หุ้น 14.36%
- MR.PAUL LIU WAI YIN โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์การทุนไทย จำกัด (มหาชน) 3,849,000 หุ้น 4.81%
- นายสมเกียรติ ลิมทรง 1,125,000 หุ้น 1.41%
- นายประเสริฐ คงรักเกียรติยศ 1,027,000 หุ้น 1.28%
รายชื่อกรรมการ
- นายไพรสัณฑ์ วงศ์สมิทธิ์ ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
- นางพจนารถ ปริญภัทร์ภากร กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
- น.ส.นฤศสัย มหฐิติรัฐ กรรมการ
- นายเดชบดินทร์ เหรียญทรัพย์ดี กรรมการ
- นายศิวนัส นาคทัต กรรมการ