SCGP พุ่งแรง 4% โบรกฯ แนะ “ซื้อ” ชี้ควบรวม “Go-Pak UK-SOVI” หนุนกำไรโตกระฉูด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ล่าสุด ณ เวลา 11.18 น. อยู่ที่ 46 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 3.95% สูงสุดที่ 46 บาท ต่ำสุดที่ 44.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.12 พันล้านบาท

โดย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” SCGP ราคาเป้าหมาย 48 บาท/หุ้น โดย SCGP เข้าซื้อกิจการ Go-Pak (100%) และ SOVI (94%) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ในเวียดนาม มูลค่ารวม 7-8 พันล้านบาท  จะช่วยเพิ่มยอดขาย 5% และกำไร 8.1% จะส่งผลให้ SCGP สามารถขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค อีกทั้งเป็นการเพิ่มสัดส่วนการบูรณาการในแนวตั้งกับโรงงานกระดาษบรรจุภัณฑ์  เงินจาก IPO 4 หมื่นล้านบาท และ หุ้นกู้อีก 4 หมื่นล้านบาท  อนาคตจะเห็น M&P มากขึ้น

ทั้งนี้ การควบรวม Go-Pak และ SOVI จะช่วยเพิ่ม กำไร 8.1% สำหรับประมาณการปี 2564 และ อนาคตมีศักยภาพที่จะเติบโตสูง  และ มี Valuation ที่น่าสนใจ คือ EV/EBITDA ประมาณ 7-5 เท่า เทียบกับ SCGP 10-11 เท่า  SCGP ได้เงินจาก IPO ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และ ยังมีแผนออกหุ้นกู้อีก 4 หมื่นล้านบาท  คาดหลังจากนี้จะมีการขยายกำลังการผลิต และ / หรือ M&P (Mergers & Partnerships) มากขึ้น  ช่วยหนุนการเติบโต  ซึ่งคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563-2565 โดยเฉลี่ยจะเติบโต 20%CAGR

ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SCGP ราคาเป้าหมาย 51 บาท/หุ้น จากเดิม 47 บาท โดยปรับประมาณการราคาบรรจุภัณฑ์กระดาษขึ้นอีก 3% ในปี 2564 จากอุปทานกล่องและกระดาษแข็งที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกในครึ่งปีหลังปี 2563 Jefferies พันธมิตรด้านงานวิจัยของเราได้ชี้ว่า ราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงไตรมาส 4/63 เกิดจากอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้น และกระดาษแข็งคงคลังที่น้อยลงเป็นตัวกระตุ้นราคาไตรมาส 4/63 ทั้งในแถบสหรัฐฯ,  ยุโรป, ละตินอเมริกา และจีน

อีกทั้งยังปรับกำไรสุทธิปี 2564-2565 ขึ้นอีก 8% และมีมูลค่าเหมาะสมที่ 51 บาท การประมาณการปัจจุบันของบล.ทิสโก้ สูงกว่า consensus อยู่ 10% การประเมินมูลค่าของเรามาจาก EV/EBITDA ที่ 12.5x, ในช่วง 6.7-15.0x ของคู่แข่งกลุ่มแพคเกจจิ้งทั่วโลก (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 10.4x, หรือ 11.0x เช่นคู่แข่งในญี่ปุ่น