KCE วอลุ่มแน่น-บวกแรง 8% นิวไฮรอบ 3 ปีครึ่ง โบรกฯแนะซื้อเป้า 62 บ.  

KCE วอลุ่มแน่น-บวกแรง 8% นิวไฮรอบ 3 ปีครึ่ง โบรกฯแนะซื้อเป้า 62 บ.  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ณ เวลา 15.25 น. อยู่ที่ระดับ 54.00 น. บวก 4.25 บาท หรือ 8.54% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.01 พันล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 3 ปี 6 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 54.25 บาท เมื่อวันที่ 3 ก.ค.60

บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า KCE  แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 62 บาท/หุ้น คาด Core profit ไตรมาส 4/2563 เท่ากับ 390 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่ง +83% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +117%QoQ ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้รูปดอลลาร์ (+11%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +22%เทียบไตรมาสก่อนหน้า สู่ระดับ 107 ล้านUS$) แม้ว่าจะมีปัญหาโลจิสติกส์จากการที่ประเทศปลายทางสินค้าบริษัทบางประเทศมีการ Lockdown และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น

ประมาณการไว้ที่ 25.6% ในไตรมาส 4/2563 ซึ่งดีขึ้นจาก 20.4% ในไตรมาส 4/62 เพราะประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น & Product mix ที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งดีขึ้นจาก 19% ในไตรมาส 3/2563 ที่อยู่ในภาวะต้นทุนวัตถุดิบสูง

ระยะสั้นอาจถูกกระทบจากโลจิสติกส์ตึงตัวและการขาดแคลนชิปบ้าง ในด้านโลจิสติกส์ตึงตัวเกิดขึ้นในระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการที่ลูกค้ามีการเพิ่มสต็อกประกอบกับแรงงานในช่วงโควิด-19 ก็ลดลงทำให้เกิดการดีเลย์ที่ท่าเรือ ทั้งนี้ KEC ใช้การขนส่งทางเรือราว 60%, ทางอากาศ 35% และที่เหลือเป็นการขนส่งในประเทศ สำหรับส่วนนี้ทาง KCE วางแผนรองรับและคาดว่าผลกระทบจะจำกัด ส่วนการขาดแคลนชิปเป็นผลจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของยอดขายรถยนต์ในจีนและอุปสงค์ชิปที่ใช้กับสมาร์ทโฟน 5G เพิ่มขึ้นด้วย ยังผลให้ค่ายรถยนต์บางแห่งประกาศแผนลดปริมาณการผลิตลงในไตรมาส 1/64 เช่น โวคสวาเก้น เยอรมนี, ฮอนด้า ญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งส่วนนี้อาจกระทบต่อรายได้ของ KCE ในระยะสั้น

แต่.แนวโน้มระยะกลาง-ยาวยังไปได้ดี จากอุปสงค์ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ในรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ EV หรือ Non-EV ทั้งนี้เพราะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั่วโลก มีการติดตั้งและใช้ระบบอิเลคทรอนิกส์มากขึ้นมาก ซึ่ง KCE เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้รับอานิสงค์ทางบวก

วิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาท การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาททุกๆ 1% จะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ประมาณ 0.5% (ซึ่งใน 4Q63 คาดว่า GPM บริษัทจะอยู่ที่ 25.6% และปี 64 ขยับขึ้นเป็น 26% โดยมีสมมติฐานค่าเงินบาทปี 64 ที่ 31.0 บาท/US$)

แนะนำซื้อ ปรับเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 62 บาท และให้เป็น Top pick ของกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ ทั้งนี้ในปี 64 คาดว่า KCE จะมีการเติบโตของกำไรสุทธิแข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม โดยประมาณการไว้ที่ +72% และคาดว่าจะขยายตัวต่อ +22% ในปี 65 สำหรับราคาพื้นฐานใหม่นั้นเทียบเท่ากับ PEG ปี 64 ที่ 0.5 เท่า (PE เป้าหมาย 37 เท่าและ EPS growth 72%)

Back to top button