RCL เข้าซื้อเรือเพิ่ม 1 ลำ มูลค่า 940.71 ลบ. รับดีมานด์ใช้ตู้สินค้าพุ่ง
RCL เข้าซื้อเรือเพิ่ม 1 ลำ มูลค่า 940.71 ลบ. รับดีมานด์ใช้ตู้สินค้าพุ่ง
บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL แจ้งว่า บริษัท ริจิแนล คอนเทนเนอร์ ไลน์ พีทีอี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นทั้งจำนวน และจดทะเบียนจัดตั้งในประเทศสิงคโปร์ จะซื้อเรือ จำนวน 1 ลำ คือ M.V.APL Norway (Liberia Flag) อายุงาน 14 ปี ขนาด 6310 TEU โดยมีมูลค่าการซื้อรวม 940,711,200 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯเท่ากับ 30.1510 บาท)
โดยก่อนหน้านายทวินโชค ตันธุวนิตย์ ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้างานภูมิภาค ปฏิบัติการและธุรกิจ RCL เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 8% จากปี 2563 เนื่องจากความต้องการใช้ตู้สินค้าเพิ่มขึ้น เป็นไปตามเทรนด์การซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีความนิยมมากขึ้น ทำให้ต้องมีการเก็บสต๊อกจำนวนมาก รวมถึงการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ส่งผลให้มีความต้องการซื้อสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการ Work from Home มากขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบต่อธุรกิจเดินเรืออย่างใกล้ชิด เช่น สถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน, การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ 2, วัคซีนต้านโควิด-19 จะเกิดขึ้นเร็วเพียงใด, แพ็กเกจของรัฐบาลในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจะมีผลต่อการขับเคลื่อนสินค้าในแต่ละประเทศอย่างไร, สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ, ราคาน้ำมัน ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น และข้อตกลงในการประชุมสุดยอดความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะส่งผลให้สินค้าในเอเชียเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด
ส่วนแผนการลงทุนในปี 2564 บริษัทมีแผนซื้อเรือในช่วงที่ราคามีความเหมาะสม เพื่อทดแทนลำเดิมที่จะหมดอายุ และบริษัทมีแผนขยายไปยังธุรกิจทางภาคพื้นดินในพื้นที่ที่มีการเติบโตค่อนข้างสูง เช่น จีน และอินเดีย เนื่องจากมีความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นทุกปี
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2563 บริษัทคาดว่าปริมาณการขนส่งตู้สินค้าจะสูงกว่าในไตรมาส 3/2563 ที่มีปริมาณการขนส่งตู้สินค้าอยู่ที่ 559,000 ตู้ ซึ่งแม้บริษัทจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน โดยบริษัทได้แก้ไขปัญหาด้วยการใช้ข้อมูลที่อยู่ในระบบเลือกสินค้าที่มีการจัดส่งอย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นทดแทนสินค้าที่ใช้ระยะเวลานานในการจัดส่ง
อย่างไรก็ตามจะต้องไม่มีปัจจัยในเรื่องพายุที่ทำให้ท่าเรือปิด สินค้าเข้าไม่ได้ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ 2 เนื่องจากจะทำให้การขนส่งสินค้าชะงัก โดยค่าระวางเรือในไตรมาส 4/2563 ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ปัจจุบันราคาค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์ปรับตัวสูงขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา รวมทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาค่าเช่าเรือสูงขึ้น