CPF คาดผลงานปีนี้โตต่อ จ่อบุ๊กกำไรธุรกิจสุกรในจีน เล็งคลอดผลิตภัณฑ์ “กัญชง” ปี 64

CPF คาดผลงานปีนี้โตต่อ จ่อบุ๊กส่วนแบ่งกำไรธุรกิจสุกรในจีน หลังเข้าซื้อ "เจียไต๋" เล็งคลอดผลิตภัณฑ์ "กัญชง" สู่ตลาดภายในปี 64 วางงบลงทุน 2.7 หมื่นลบ. เดินหน้าธุรกิจตปท.เต็มสูบ


นางกอบบุญ ศรีชัย เลขานุการบริษัทและหัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และตลาดทุน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF นำเสนอข้อมูลในงานริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทคาดเติบโตต่อเนื่องจากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 26,022 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายในปี 2564 คาดว่าจะไม่เติบโตจากปี 2563 ที่มียอดขายรวมอยู่ที่ 589,713 ล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจาก Chia Tai Investment Co., Ltd. (CTI) ซึ่งเดิมเป็นบริษัทย่อยในจีน ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ที่บริษัทถือหุ้น 100% และรวมรายได้จากการขายเข้ามา 100% ขณะที่ในปี 2563 CTI ได้เข้าทำรายการซื้อธุรกิจสุกรครบวงจรในจีน โดยชำระค่าตอบแทนมูลค่าสินทรัพย์ด้วยการออกหุ้นใหม่คิดเป็น 65% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังจากการเพิ่มทุนให้กับผู้ขาย ทำให้การถือหุ้นใน CTI เปลี่ยนสถานะจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อม 18.26% ส่งผลให้ยอดขายจากอาหารสัตว์ในจีนหายไปประมาณ 100,000 ล้านบาท แต่จะส่งผลต่อกำไรสุทธิจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของธุรกิจสุกรครบวงจรในจีนตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2563 ซึ่งมีผลการดำเนินงานโดดเด่น

ประกอบกับผลการดำเนินงานทุกประเทศปรับตัวดีขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้มีการเปิดประเทศ และมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อทั่วโลกฟื้นตัว ตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดี รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนามาตรฐานการผลิตให้ต้นทุนสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

นอกจากนี้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดในหลาย ๆ ประเทศ เช่น รัสเซีย เวียดนาม ที่ยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก และฟิลิปปินส์ เริ่มเห็นการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งในไทย บริษัทมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์มากขึ้น
นางกอบบุญ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมกัญชง ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและองค์กรต่าง ๆ รวมถึงวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช คาดว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิด จะออกสู่ตลาดได้ภายในปี 2564 อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน บริษัทมีการทำงานร่วมกับโลตัสมากขึ้นในการทำการค้าร่วมกัน หลังจากที่บริษัทเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าลงทุนซื้อกิจการเทสโก้ เอเชีย ร่วมกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL

สำหรับในปี 2564 บริษัทวางงบลงทุนไว้ใกล้เคียงกับปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 26,000-27,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามที่มีการลงทุนต่อเนื่อง จากที่โอกาสและศักยภาพในเวียดนามยังมีค่อนข้างสูง

Back to top button