KWM ผุด 2 บ.ย่อย ปูทางผู้นำผลิตเครื่องสกัดกัญชง-พืชสมุนไพร หวังปั้มรายได้โตแกร่ง
บอร์ด KWM ไฟเขียวผุด 2 บ.ย่อย "แล็บแอคทีฟ"-"เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค" ปูทางผู้นำผลิตเครื่องสกัดกัญชง-พืชสมุนไพร หวังปั้นรายได้โตแกร่ง
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจัดตั้ง 2 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดย KWM ถือหุ้น 51% เพื่อดำเนินธุรกิจการสกัด แปรรูปวัตถุดิบที่ได้จากพืชผลทางการเกษตร และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์ พร้อมทั้งยังได้อนุมัติจัดตั้ง บริษัท เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค จำกัด ด้วยทุน จดทะเบียน 20 ล้านบาท โดย KWM เข้าถือหุ้น 99.70% เพื่อดำเนินให้บริการสกัดกัญชง-กัญชา
สำหรับวัตถุประสงค์การจัดตั้งบริษัทย่อยทั้ง 2 บริษัทในครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดการสกัดสารด้วยเทคโนโลยีการสกัดด้วยระบบ Supercritical Fluid Co2 และเพื่อให้เกิดความชัดเจนในโครงสร้างการจัดการ โดยบริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด จะเน้นการสกัดพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ (Non-Cannabis) ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นการลงทุนร่วมกับ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ในขณะที่ บริษัท เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค จำกัด จะมุ่งเน้นให้บริการในการรับสกัดกัญชง และกัญชา (Cannabis) เป็นหลัก
ทั้งนี้จากความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์การเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรด้านการเกษตรมากว่า 10 ปี และมีการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่รองรับความต้องการใช้งาน และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเครื่องสกัดสารด้วยระบบ Supercritical Fluid Co2 Extraction รวมถึงเครื่องสกัดสารด้วยระบบUltrasonic Extraction เพื่อการสกัดสารจากพืชกัญชา ถือว่าเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ที่สอดรับกับธุรกิจเดิมของ KWM เนื่องจากบริษัทฯสามารถนำเครื่องจักรและเทคโนโลยี ที่มีอยู่มาต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง KWM ถือว่าเป็นบริษัทผู้ประกอบการรายแรกของประเทศที่ดำเนินธุรกิจในการผลิตเครื่องสกัดสำหรับสกัดสารจากพืชสมุนไพร รวมกับ กัญชง-กัญชา เนื่องจากเครื่องสกัดส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นการที่ KWM สามารถผลิตเครื่องสกัดดังกล่าวเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการ จะส่งผลให้เหล่าบรรดาผู้ประกอบการสามารถลดงต้นทุนค่าใช้จ่ายจากการนำเข้าเครื่องสกัดดังกล่าวได้อย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับการจัดตั้ง 2 บริษัทย่อยในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ซึ่งการขยายไลน์ในธุรกิจใหม่ จะส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของ KWM เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต นอกจากนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้ารายได้ จากยอดขายธุรกิจหลักคือ การผลิต เครื่องจักร อุปกรณ์ อะไหล่ ทางการเกษตร ในปี 2564 ไว้ที่ระดับ 400 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมธุรกิจที่มีการแตกไลน์ออกไป