ZIGA แนวโน้ม Q1/64 สดใส-ทั้งปีแกร่ง

หนึ่งในหุ้นขนาดเล็กมีความแกร่งในด้านธุรกิจ และโดดเด่นในช่วงนี้คือ ZIGA เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-zinc ภายใต้แบรนด์ “ZIGA”


คุณค่าบริษัท

หนึ่งในหุ้นขนาดเล็กมีความแกร่งในด้านธุรกิจ และโดดเด่นในช่วงนี้คือ บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-zinc ภายใต้แบรนด์ “ZIGA” และท่อเหล็กร้อยสายไฟฟ้าประเภท Pre-zinc ภายใต้แบรนด์ “DAIWA”

สำหรับสัดส่วนรายได้หลัก 85-90% มาจากท่อเหล็กโครงสร้าง (ZIGA) และอีก 10-15% มาจากท่อเหล็กร้อยสายไฟฟ้า (DAIWA)

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/2564 สดใสต่อเนื่อง จากกิจการก่อสร้างและซ่อมแซมตกแต่งบ้านและโรงงานในต่างจังหวัดยังหนาแน่น พร้อมกับราคาวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะท่อเหล็กเคลือบสังกะสีที่ปรับสูงขึ้น จำนวนวันทำงานมีมากขึ้น

ผลตามมามีการประเมินว่ารายได้ที่คาดว่าจะทำ New high ในรอบ 3 ปีที่ 258.20 ล้านบาท หลังขยาย Outlet เพิ่มในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และรุกช่องทางการขาย Online ต่อเนื่อง อัตรากำไรขั้นต้นอาจชะลอเล็กน้อยจากต้นทุนเหล็กที่เพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับสูง และยังควบคุมค่าใช้จ่ายอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2564 ที่ 40.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 294.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ ปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นเล็กน้อย 4.3% และปรับกำไรปี 2565 ขึ้น 14.3% หลัก ๆ มาจากปรับอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 21.90-22.00% จากเดิมที่คาดไว้ 21.00-19.60% จากตลาด Retail ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและการออกสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูง ส่งผลให้กำไรปี 2564 เติบโตสูงกว่าคาดการณ์เดิมเป็นเพิ่มขึ้น 36.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเติบโตต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 13.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 161.00 ล้านบาท และ 183.00 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนประเด็น ZIGA เซ็น MOU กับ บจ.แพล้นโทโลยี ซึ่งเป็น 1 ใน 7 เอกชนที่ได้รับอนุญาตจาก อย. นำเข้าเมล็ดกัญชง และเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีการเกษตรที่มีบริการควบวงจร โดย ZIGA จะทำหน้าที่ก่อสร้างโรงเรือนเพราะปลูกแบบ Smart farm คาดว่าจะสามารถติดตั้งโรงเรือนครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 หมื่นไร่ ใช้เหล็กกัลป์วาไนซ์ของบริษัทซึ่งทำให้ก่อสร้างได้เร็ว และเชื่อว่าจะนำไปสู่การต่อยอดธุรกิจรับก่อสร้างโรงเรือนเพื่อการเกษตรและอื่น ๆ ต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าขยับขึ้นมาอยู่ที่ 972.93 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 760.17 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 117.71 ล้านบาท หรือ 0.23 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 35.26 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น เนื่องจากบริษัทมีการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเปิดใช้โรงงานใหม่ ส่งผลทำให้ต้นทุนผลิตสินค้าต่อหน่วยลดลง

ท้ายสุดจากการประมาณการกำไรที่ปรับขึ้นทำให้การเติบโตในระยะ 3 ปีข้างหน้าสูงกว่าเดิม ที่คาดเพิ่มขึ้น 16.6% เป็นเพิ่มขึ้น 19.5%

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ 157,701,200 หุ้น 31.72%
  2. บริษัท ดีงาม โฮลดิ้ง จำกัด 80,806,400 หุ้น 16.25%
  3. น.ส.ฐปนี ตรีมุทธาพงศ์ 39,991,110 หุ้น 8.04%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 26,776,623 หุ้น 5.39%
  5. นายธีรนาท งามจิตรเจริญ 15,574,667 หุ้น 3.13%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายไสว ฉัตรชัยรุ่งเรือง ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  2. นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  3. น.ส.วราลักษณ์ งามจิตรเจริญ กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
  4. นางมณฑา ทัสฐาน กรรมการ
  5. นายพลรชฏ เปียถนอม กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ

Back to top button