AEC ขายผ้าเอาหน้ารอด.!
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC จัดเป็นหนึ่งในหุ้นโบรกเกอร์ชื่อดัง ที่ในช่วงที่ผ่านมาประสบวิบากกรรมรอบด้าน...ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขาดทุนเรื้อรังมาหลายปี โดยปี 2560 มีรายได้รวม 675 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 76 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 652 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มเป็น 85 ล้านบาท ปี 2562 รายได้รวมลดเหลือ 209 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิพุ่งไป 237 ล้านบาท
สำนักข่าวรัชดา
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC จัดเป็นหนึ่งในหุ้นโบรกเกอร์ชื่อดัง ที่ในช่วงที่ผ่านมาประสบวิบากกรรมรอบด้าน…ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขาดทุนเรื้อรังมาหลายปี โดยปี 2560 มีรายได้รวม 675 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 76 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 652 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มเป็น 85 ล้านบาท ปี 2562 รายได้รวมลดเหลือ 209 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิพุ่งไป 237 ล้านบาท
โดยเฉพาะปีล่าสุดปี 2563 ที่รายได้รวมเหลือ 85 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิสูงถึง 300 ล้านบาท
ส่งผลให้ ณ งวดสิ้นปี 2563 ขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรรปาไป 893 ล้านบาท…
สถานการณ์ดูไม่จืดจริง ๆ…
จากปัญหาขาดทุนเรื้อรังดังกล่าว เป็นพาหะให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องขึ้นเครื่องหมาย C หุ้น AEC เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนที่ชำระแล้ว และมีส่วนล้ำมูลค่าหุ้นติดลบสูงถึง -2,669 ล้านบาท
แต่วิบากกรรมของ AEC ไม่หมดแค่นี้…ยังมีปัญหาเรื่องเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ต่ำกว่าเกณฑ์กำหนดซ้ำเติมอีก ซึ่งมีสารตั้งต้นมาจากการที่ AEC ไปซื้อหุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ซึ่งถูกลดเครดิตเรตติ้งจาก A เป็น C อย่างกะทันหัน ไว้เยอะนั่นเอง…
ปัญหาข้างต้นแก้ไม่ทันหาย ยังมีวิบากกรรมประธานกรรมการบริหาร อย่าง “ประพล มิลินทจินดา” ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษกรณีร่วมขบวนปั่นหุ้นบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง 22 ล้านบาท ส่งผลให้ “ประพล” ต้องหลุดจากประธานกรรมการบริหาร AEC ไปโดยปริยาย
เรียกว่าความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกซะงั้น..!!
ทำให้ช่วงระหว่างนี้ AEC ต้องดำเนินการแก้ปัญหาชีวิต ในเรื่องผลประกอบการที่ย่ำแย่ คงหนีไม่พ้นการขายเงินลงทุนออกไป ล่าสุดก็ประกาศขายหุ้น 30% ที่ถือในบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (ZIPMEX) ราคา 30 ล้านบาท และขายหุ้น 9% ที่ถือในบริษัท ซิปเม็กซ์ เอเชีย พีทีอี ลิมิเต็ด จำกัด (ZIPMEX Asia) ในราคา 34 ล้านบาท
โดยทั้ง ZIPMEX และ ZIPMEX Asia เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจการค้าสินทรัพย์ดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล ซึ่ง AEC อ้างว่าจากภาวะตลาดที่มีการแข่งขันกันสูง ทำให้ทั้งสองบริษัทประสบปัญหาขาดทุน จึงต้องขายออกไป เพื่อจะได้ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนของทั้งสองบริษัทอีกต่อไป
และอย่างน้อย ๆ ก็จะได้เงินสด 64 ล้านบาท เข้ามาเติมสภาพคล่อง..!!
เคสนี้ก็ไม่ต่างจากขายผ้าเอาหน้ารอดน่ะสิ..!?
แต่ปัญหาของ AEC ไม่ได้จบแค่นี้นะ…ยังมีปัญหาเครื่องหมาย C ที่เป็นตราบาปติดหลัง AEC อยู่ เลยเป็นที่มาของการประกาศเพิ่มทุน เพื่อแก้โครงสร้างทุน และแก้ปัญหาสภาพคล่องไปพร้อม ๆ กัน
นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะเข้าลงทุนในบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ซึ่งประกอบธุรกิจขนส่งผู้โดยสารรถประจำทางรวม 11 สายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจอีกด้วย
ก็น่าคิดนะว่าแผนกู้ชีพครั้งนี้ เพียงพอที่จะทำให้ AEC ได้ออกจากห้องไอซียูหรือเปล่า..? คงต้องติดตามกันต่อไป
แต่จะว่าไป ถ้าพูดถึง AEC ก็จะนึกถึง “ประพล” ซึ่งการที่ AEC ไม่มี “ประพล” ในวันนี้ ก็ไม่ต่างจาก “โรนิน” (Ronin) หรือซามูไรไร้นาย อ่ะนะ…
…อิ อิ อิ…