SIRI เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “The Muve” มั่นใจดันยอดขายทั้งปีเข้าเป้า 1.1 หมื่นลบ.
SIRI คงแผนปี 64 ขาย 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6.1 พันลบ. พร้อมเปิดตัวแบรนด์ “The Muve” รุกคอนโดฯต่ำกว่า 2 ลบ. มั่นใจดันทั้งปีเข้าเป้า 1.1 หมื่นลบ.
นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมั่นใจยอดขายคอนโดมิเนียมปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 11,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายแล้ว 4,200 ล้านบาท ซึ่งหลัก ๆ มาจากโครงการเดิมที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
โดยบริษัทยังคงแผนการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท โดยจะทยอยเปิดขายในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากความต้องการซื้อที่อยู่อาสัยเป็นของตัวเอง เนื่องจากบริษัทได้คำนวนราคาขายโครงการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปแล้ว ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายยอดโอนคอนโดมิเนียมทั้งปีนี้ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในวันนี้บริษัทเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เป็นครั้งแรกของปี 64 เป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดชื่อ เดอะ มูฟ (THE MUVE) ในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท/ยูนิต หรือราคาเฉลี่ยที่ 80,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งเป็น Segment ที่เข้าถึงได้ง่ายที่บริษัทไม่ได้ทำมานานกว่า 10 ปี โดยแบรนด์ดังกล่าวปัจจุบันมีทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนยอดขายประมาณ 23% ของเป้าหมายรวมทั้งปี
โดยแบรนด์ใหม่นี้มีสัดส่วนการขายเพื่อนักลงทุน 30-40% โดยมีตลาดปล่อยเช่ารองรับชัดเจน ผลตอบแทน (Yield) ประมาณ 5.8% หรือสามารถปล่อยเช่าได้ 9,000-10,000 บาท/เดือน และที่เหลือเป็นผู้อยู่อาศัยจริง โดยโครงการแรกที่เปิดจองช่วงปลาย พ.ค.นี้ คือ เดอะ มูฟ เกษตร” (THE MUVE Kaset) คาดว่าส่วนที่เปิดให้จองก่อนจะมียอดจองเต็ม 100% ส่วนโครงการที่เหลือ ได้แก่ เดอะ มูฟ ราม , เดอะ มูฟ บางนา , เดอะ มูฟ รัชดา
“เดอะ มูฟ เป็นแบรนด์คอนโดน้องใหม่ของแสนสิริ และเป็นหนึ่งใน Product Hilight ที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่มและรองรับ Segment ในระดับราคาที่เข้าถึงง่าย และในไตรมาศ 2 นี้ จะทยอยเปิดตัวเดอะ มูฟ เกษตร, เดอะ มูฟ ราม และเดอะ มูฟ บางนา โดยเราเชื่อว่า เดอะ มูฟ จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างยอดขายคอนโดในปีนี้ให้ถึงเป้าที่ 11,000 ล้านบาท” นายองอาจ กล่าว