HANA แรลลี่ยาว! 5 เดือนฟาดรีเทิร์นเฉียด 70% ลุ้นโชว์กำไร 3 ปีโตเฉลี่ย 18%

HANA แรลลี่ยาว! 5 เดือนฟาดรีเทิร์นเฉียด 70% ลุ้นโชว์กำไร 3 ปีโตเฉลี่ย 18% รับคำสั่งซื้อพุ่ง หลังอุตฯ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น ตามการฟื้นตัวฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก-พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจทำการรวบรวมข้อมูลบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA หลังจากสังเกตเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น HANA ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงวานนี้ (1 มิ.ย.) ราคาหุ้น HANA ปรับตัวขึ้นสูงถึง 63% นับตั้งแต่ราคาอยู่ที่ระดับ 69.75 บาท เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2563 ขณะที่ราคาหุ้นวานนี้ปิดที่ 66 บาท ปรับตัวขึ้น 5.75 บาท หรือ 9.54% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.88 พันล้านบาท

โดย บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (28 พ.ค.) ว่า มีมุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้น HANA ด้วยราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 72 บาท ปัจจัยบวกคือ คาดงบไตรมาส 2 ปี 2564 อยู่ที่ 689 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เด่นเพราะคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากความต้องการของลูกค้าเพิมขึ้นในทุกกลุ่มทั้งรถยนต์ เทเลคอม อุตสาหกรรม ทำให้ HANA ใช้กำลังการผลิตเกือบเต็มในโรงงานอยุธยา-ลำพูน-สหรัฐ

ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าจะช่วยเรื่องมาร์จิ้นให้ดีขึ้นด้วย ส่วนข่าว Chip Shortage ลูกค้าทุกกลุ่มยังสั่งซื้อตามปกติ แต่เรื่องวัตถุดิบผลิตเซมิคอนดักเตอร์คือลวดทองแดงเริ่มมีระยะเวลาในการสั่งซื้อนานขึ้น อาจทำให้สายการผลิตเซมิฯ ของ HANA ใช้กำลังการผลิตได้ไม่เต็มที่ในไตรมาส 3 ปี 2564

อย่างไรก็ตามยังคาดกำไรสุทธิโต 22% ในปี 2564 ที่ 2,325 ล้านบาท ปัจจัยบวกในอนาคตคือการเร่งปรับปรุงโรงงานจีนรับกระแส “Made in China 2025” ที่จีนจะทำ Tech Center ของจีนเองและพึ่งพาสหรัฐน้อยลง ด้วยฐานะทางการเงินของ HANA ที่มีเงินสดถึง 9,000 ล้านบาท และไม่มีหนี้ทำให้ HANA เร่งลงทุนในจีนได้ง่าย นอกจากนี้ HANA กำลังพัฒนาสินค้าใหม่คือ Silicon carbine (SiC) semiconductor ซึ่งมาร์จิ้นสูงใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสูง เช่น EV car น่าจะเห็นรายได้ในปี 2565

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะ “ซื้อ” หุ้น HANA ประเมินรคาเป้าหมายที่ 68 บาท จัดให้เป็นหุ้นเด่นสำหรับธีมในสัปดาห์นี้ คาดกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 มีแนวโน้มขยายตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบจากปีก่อน จากการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน มิ.ย. และขยับขึ้นสู่ระดับเต็มกำลังการผลิตในครึ่งปีหลังปี 2564 ซึ่งมีลูกค้ารองรับอยู่แล้วประมาณ 90% ในปัจจุบัน  และได้ประโยชน์มากที่สุดจากทิศทางเงินบาทที่อ่อนค่า

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสเติบโตใหม่ ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้าน Power management เป็นสินค้าที่ความต้องการสำหรับแนวโน้มในอนาคตทั้ง EV, สินค้า 5G โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาในประเทศเกาหลีก่อนเริ่มจำหน่ายในไตรมาส 3-4 ปี 2564

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น HANA ที่ราคาเป้าหมาย 68 บาท อิง PER ปี 2564 ที่ 25 เท่า โดยมีมุมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (27/05/21) เนื่องจากรายละเอียดการประชุมค่อนข้างเป็นไปตามที่บล.เคทีบีเอสที คาดไว้ โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 มีแนวโน้มเติบโตได้ดีทั้งเมื่อเทียบจากปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากความต้องการสินค้าในทุกอุตสาหกรรมยังเติบโตได้ดี

รวมทั้ง 2) บริษัทจะไปเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น โดยบริษัทอยู่ระหว่างรุกธุรกิจ Power management เกี่ยวกับสินค้า Silicon carbide (SIC) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะในธุรกิจ EV car ขณะที่ธุรกิจ RFID Tag ในอเมริกายังเป็นไปตามเป้าหมายเดิม และ 3) บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มจากโรงงานอยุธยาคิดเป็ นประมาณ 10% ของกำลังการผลิตรวมในช่วง ก.ค. 2564 และอยู่ระหว่างพิจารณาขยายกำลังการผลิตที่ประเทศจีน

ทั้งนี้ยังคงประมาณกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 2,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และปี 2565 ที่ 2,456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรม Semi-conductor ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ความต้องการใช้ชิ้นส่วน Electronic เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมี upside มาจากธุรกิจใหม่ทั้งในส่วนของธุรกิจ SIC ในประเทศเกาหลีใต้ และ RFID Tag ในประเทศอเมริกา

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น HANA ประเมินราคาเป้าหมาย 63 บาท ยังมองว่ารายได้ไตรมาส 2 ปี 2564 ของ HANA จะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยตามฤดูกาล และเครื่องจักรใหม่ๆ ที่ได้รับการส่งมอบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่างบลงทุน (capex) ที่ 2.2 พันล้านบาทในปีนี้ หลักๆ คือเสริมการลงทุนขยายกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นการเติบโต

นอกจากนี้เล็งเห็น upside ที่อาจเกิดในระยะยาว จากการวิจัยและพัฒนา (R&D) อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ประเภทซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) หากกลุ่มลูกค้าตัดสินใจผลิตสินค้าใหม่นี้เนื่องจาก1. HANA จะรุกตลาดผู้รับจ้างออกแบบและผลิตสินค้า (ODM) ไม่ใช่ EMS หมายความว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จากกระแสรายได้ส่วนนี้จะมีระดับมากกว่าที่ HANA มีอยู่ในปัจจุบันเกือบเท่าตัว

รวมทั้ง 2. เซมิคอนดักเตอร์ประเภท SiC นั้นใช้ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าถึง 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม HANA คาดหวังส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยจากตลาดนี้ ซึ่งเพียงพอต่อการกระตุ้นการเติบโตด้านกำไรต่อไปได้ในอนาคต

ทั้งนี้ประเมินว่ากำไรปกติของ HANA จะมี CAGR ที่ 18% ในปี 2564-66 แม้จะชอบ KCE มากกว่าแต่ HANA นั้นมี valuation ที่ต่ำกว่ามาก

Back to top button