CSC พื้นฐานดี

–คุณค่าบริษัท–

 

การสื่อสารที่ไร้ขีดจำกัดในโลกปัจจุบัน ข่าวสารข้อมูลที่เข้าถึงได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถติดต่อกันได้โดยสะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) หรือ CSC ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาด มีการลงทุนในสายการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันตลอดจนมองหาช่องทางในการขยายฐานการขายไปยังอุตสาหกรรมเครื่องดื่มประเภทอื่น เพื่อเพิ่มส่วนครองตลาดและขยายฐานลูกค้าใหม่

ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มแต่ละประเภท จะพบว่าเครื่องดื่นนมถั่วเหลือง เครื่องดื่มเกลือแร่ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และฟังก์ชั่นนัลดริงค์ ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี การที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายอย่าง สม่ำเสมอ ส่งผลให้เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และเครื่องดื่มเกลือแร่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง        

จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทฯ ได้เตรียมแผนงานรองรับโดยการเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ฝาโลหะ และฝาพลาสติก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดเครื่องดื่ม รวมถึงการขยายตลาดไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในทิศทางเดียวกัน

เหตุนี้ ทำให้ผลประกอบการของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 749.64 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 731.68 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 96.27 ล้านบาท หรือ 1.85 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 71.71 ล้านบาท หรือ 1.38 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,273.63 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,170.58 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 255.76 ล้านบาท หรือ 4.92 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 220.06 ล้านบาท หรือ 4.23 บาทต่อหุ้น แสดงว่าบริษัทมีความแข็งแกร่งดีอยู่จริง

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทพบว่า บริษัทมีสภาพคล่องทางฐานะทางการเงินค่อนข้างดี เพราะเมื่อนำเอาสินทรัพย์หมุนเวียน มากถึง 1,523.47 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 449.79 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio อยู่ที่ระดับ 3.39 เท่า แสดงว่า บริษัทมีความคล่องตัวทางการเงินค่อนข้างสูง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวม 643.05 ล้านบาท เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ 2,638.14 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.25 เท่า ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่ได้มารบกวนการดำเนินงานแต่อย่างใด

                สิ่งที่น่าสนใจต่อ คือ บริษัทมีค่า P/E อยู่ที่ 7.78 เท่า ถือว่าราคายังไม่แพง อีกทั้งค่า P/BV อยู่ที่ระดับ 1.04 เท่า ถือว่าค่าดังกล่าวยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และที่สำคัญเมื่อนำมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นที่ 48.15 บาท มาคำนวณค่า P/BV ที่ระดับ 1.50 เท่า ได้ราคาเหมาะสมที่ระดับ 72.23บาท ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดานอยู่ที่ระดับ 53.50 บาท นั้นแปลว่า ราคาหุ้นในกระดานอยู่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นค่อนข้างเยอะ และราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก

งานนี้ขึ้นอยู่กับนักลงทุนจะเชื่อตามแนวคิดที่ว่ามากน้อยแค่ไหน!!

…

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.NIPPON CLOSURES CO., LTD. 19,071,292 หุ้น 36.68%

2.Toyo Seikan Co. Ltd. 5,280,000 หุ้น 10.15%

3.บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด 3,934,488 หุ้น 7.57%

4.บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด 3,768,316 หุ้น 7.25%

5.บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) 1,057,742 หุ้น 2.03%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย ฮิโรฟูมิ มิกิ ประธานกรรมการ

2.นาย เทพ วงษ์วานิชรอง ประธานกรรมการบริษัท

3.นาย เทพ วงษ์วานิช กรรมการอิสระ

4.นาย อาคิโยชิ โตบะ ผู้จัดการใหญ่

5.นาย อาคิโยชิ โตบะ กรรมการ