ตลท.เตือน 19 บจ.เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนระยะที่ 3 เร่งแก้ภายในมี.ค.58
ตลท.เตือน 19 บจ.เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนระยะที่ 3 เร่งแก้ภายในมี.ค.58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีการปรับปรุงแนวทางดำเนินการต่อบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานตามข้อ 9(6) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 ซึ่งเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2554 เป็นต้นมา
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนอันเนื่องมาจากปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงาน(NC&NPG) ต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานให้พ้นเหตุเพิกถอนภายใน 3 ปีหากบริษัทมีความคืบหน้าในการแก้ไขเหตุเพิกถอนแต่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าวและบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์การขอขยายระยะเวลาฟื้นฟูกิจการ บริษัทก็อาจขอขยายเวลาได้ 1 ครั้งเป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี (รวมระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 4 ปี)ในระหว่างปี 2554-2557 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 มาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้ง ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีหนังสือแจ้งบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวและสำเนาเรียนคณะกรรมการบริษัททุกท่านได้ทราบทุกระยะรวมทั้งหมด3 ครั้งด้วยเช่นกัน
บัดนี้ใกล้ครบกำหนดการแก้ไขเหตุเพิกถอนภายในเดือนมีนาคม 2558 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอแจ้งให้บริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ระยะที่ 3 จำนวน 19 บริษัทเร่งดำเนินการดังต่อไปนี้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558
กลุ่มที่ 1 : บริษัทที่เคยได้รับการขยายเวลาแก้ไขเหตุเพิกถอนออกไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 จำนวน 16 บริษัท
หากบริษัทสามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ขอพ้นเหตุเพิกถอนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 บริษัทต้องยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯโดยมีหนังสือชี้แจงและแสดงเหตุผลหรือข้อมูลสนับสนุนที่แสดงให้เห็นว่าฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทพ้นเหตุเพิกถอนตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว
กลุ่มที่ 2 : บริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ระยะที่ 3 ซึ่งจะต้องแก้ไขเหตุเพิกถอนภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 โดยอาจขอขยายเวลาฟื้นฟูกิจการอีก 1 ปี จำนวน 3 บริษัท
2.1) ในกรณีที่บริษัทสามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ขอพ้นเหตุเพิกถอนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 บริษัทสามารถยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯโดยมีหนังสือชี้แจงและแสดงเหตุผลหรือข้อมูลสนับสนุนที่แสดงให้เห็นว่าฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว
2.2) ในกรณีมีความคืบหน้าในการแก้ไขเหตุเพิกถอนแต่บริษัทยังไม่สามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ขอพ้นเหตุเพิกถอนได้และบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การขอขยายระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดบริษัทสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯโดยบริษัทต้องยื่นคำขอพร้อมนำส่งหนังสือชี้แจงเหตุผลและข้อมูลสนับสนุนที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ขอขยายระยะเวลาตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด บริษัทจดทะเบียนทั้ง 19 บริษัทดังกล่าว
ต้องยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนหรือคำขอขยายระยะเวลาในการฟื้นฟูกิจการเพื่อแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนแล้วแต่กรณี พร้อมทั้งนำส่งงบการเงินประจำปี 2557 ฉบับที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรวมทั้งคำชี้แจงหรือเอกสารข้อมูลที่สนับสนุนหรือเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคำขอดังกล่าวของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558หากบริษัทจดทะเบียนไม่สามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติการขอพ้นเหตุเพิกถอน หรือคุณสมบัติการขอขยายระยะเวลาฟื้นฟูกิจการได้ภายใน 31 มีนาคม 2558 ตลาดหลักทรัพย์ฯจะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป
สำหรับรายชื่อบริษัทที่มีปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงานเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ระยะที่ 3 จำนวน 19 บริษัท
กลุ่มที่ 1 : บริษัทที่เคยได้รับการขยายเวลาแก้ไขเหตุเพิกถอนจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 จำนวน 16 บริษัท
ที่ ชื่อย่อ ชื่อบริษัท
1 APX บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
2 BRC บริษัท บางกอกรับเบอร์ จำกัด (มหาชน)
3 CIRKIT บริษัท เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน)
4 CPICO บริษัท เซ็นทรัลอุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด (มหาชน)
5 KTECH บริษัท เค-เทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
6 NFC บริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน)
7 PK1/ บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน)
8 POMPUI บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน)
9 SAFARI บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน)
10 SGF บริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน)
11 TPROP บริษัท ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
12 TRS บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด (มหาชน)
13 TT&T บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)
14 WORLDบริษัท เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
15 WP บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
16 WR บริษัท วีรีเทล จำกัด (มหาชน)
1/ PK ได้ยื่นคำขอพ้นเหตุต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างพิจารณาคำขอพ้นเหตุเพิกถอน
กลุ่มที่ 2 : บริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ระยะที่ 3 ซึ่งจะต้องแก้ไขเหตุเพิกถอนภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 โดยอาจขอขยายเวลาฟื้นฟูกิจการอีก 1 ปี จำนวน 3 บริษัท ประกอบด้วย
ที่ ชื่อย่อ ชื่อบริษัท
1 ASCON บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
2 SINGHA บริษัท สิงห์ พาราเทค จำกัด (มหาชน)
3 THL บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน)
หลักเกณฑ์การขอพ้นเหตุเพิกถอนบริษัทจดทะเบียนสามารถยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนเมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกข้อ ดังนี้
(1)มีส่วนของผู้ถือหุ้น (ภายหลังปรับปรุงความเห็นผู้สอบบัญชี)
-ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท กรณีจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หรือ
-ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท กรณีจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
(2) มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติที่เกิดจากธุรกิจหลักซึ่งจะดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องในอนาคตภายใต้การจัดการของผู้บริหารส่วนใหญ่กลุ่มเดียวกันมาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนยื่นคำขอโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาจากงบการเงินประจำปี หรืองบการเงิน 4ไตรมาสที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ดังนี้
-มีกำไรสุทธิ และมีกำไรสุทธิในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ กรณีจะซื้อขายใน mai หรือ
-มีกำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ กรณีจะซื้อขายใน SET
(3) ปรับโครงสร้างหนี้ได้มากกว่าร้อยละ 75 ของมูลหนี้ทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียน
(4)แสดงได้ว่าบริษัทมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณากระแสเงินสดของกิจการประกอบด้วย
(5)มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนก่อนขอพ้นเหตุเพิกถอน ยกเว้นเรื่องการกระจายการถือหุ้นรายย่อยให้บริษัทดำเนินการตามแนวทางการดำเนินการกับบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วน
(6)สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่ฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายบริษัทต้องออกจากการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลแล้ว
หลักเกณฑ์การขอขยายระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการ
บริษัทจดทะเบียนสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการเพื่อแก้ไขเหตุเพิกถอนเมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วน
ทุกข้อ ดังนี้
(1) มีส่วนของผู้ถือหุ้น (ภายหลังปรับปรุงความเห็นผู้สอบบัญชี) ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท หรือ มีกำไรสุทธิ จากการดำเนินงานจากธุรกิจหลัก 1 ปี
(2)มีธุรกิจหลักที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องชัดเจน โดยปัจจัยในการพิจารณา เช่น มีรายได้เชิงพาณิชย์มีทรัพย์สินที่ใช้ประกอบธุรกิจหลัก ใบอนุญาต/สัมปทานในการประกอบธุรกิจ เป็นต้น
(3)มีแนวทางแก้ไขเหตุเพิกถอนชัดเจน และมีการดำเนินการตามแผน
(4)ผู้บริหารไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศ ก.ล.ต. และปฏิบัติตามเกณฑ์เปิดเผยข้อมูลครบถ้วน