22 หุ้น Laggard Play ช้อนเก็บช่วงดัชนีผันผวนSET เก็งรีบาวด์ กองทุนหนุน-ลุ้นยกเลิกกฎอัยการศึก
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น มีจังหวะ Rebound จากแรงหนุนกองทุนทริกเกอร์ ประกอบกับตลาดคาดรอรัฐประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ได้แก่ SPALI, STPI, AOT, CENTEL, MINT, TOP, PLANB, SAMART, TASCO, BA, EMC, NMG, TPIPL, PTT, PTTEP, TUF, CPF, PTTGC, DTAC, CPALL, CPN และ IFEC
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.61/32.63 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้จะมีรายงานจากทางญี่ปุ่นว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ปรับตัวลง 3.4% จากเดือนก่อนหน้าก็ตาม
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น มีจังหวะ Rebound จากแรงหนุนกองทุนทริกเกอร์ ประกอบกับตลาดรอรัฐประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ได้แก่ SPALI, STPI, AOT, CENTEL, MINT, TOP, PLANB, SAMART, TASCO, BA, EMC, NMG, TPIPL, PTT, PTTEP, TUF, CPF, PTTGC, DTAC, CPALL, CPN และ IFEC
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มี.ค.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาด Rebound ด้วยแนวต้าน 1,510 จุด จาก 1) โอกาสยกเลิกกฎอัยการศึกเร็วๆ นี้ โดยจะใช้ ม.44 ในการควบคุมความสงบแทน 2) เม็ดเงินลงทุนจาก Trigger Fund มูลค่า 5-6 พันล้านบาทเริ่มเข้าซื้อหุ้น ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.พ.วันที่ 31 มี.ค.นี้ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ที่จะมีผลต่อการขึ้นดอกเบี้ย Fed ในอนาคต
กลยุทธ์หลักอิง Tactical Portfolio แนะนำ “รอซื้อ” เมื่อมีสัญญาณฟื้นตัว ด้วยน้ำหนักลงทุนหุ้นที่ 80% ของพอร์ตต่อไป และแนะนำ “ซื้อ” AOT ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 380 บาท และระยะสั้นที่ 300-304 บาท จากความคาดหวังเชิงบวกต่อโอกาสยกเลิกกฎอัยการศึก ขณะที่การห้าม Charter Flight ของญี่ปุ่นส่งผลกระทบจำกัด นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” CENTEL และ MINT เป้าหมายระยะสั้น 34.75 และ 36 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มี.ค.) ว่า คงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 7 พร้อมประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,490-1,505 จุด และมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท เพียงแต่เข้าสู่โค้งสุดท้ายของ Window Dressing ทำให้หุ้นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร / ICT มีแนวโน้มทรงตัวถึงขยับขึ้น
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า NYMEX ปรับฐานลงหลุดแนว US$50/barrel อีกครั้ง จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด สถานการณ์ในเยเมนเป็นกลาง ทำให้กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันต่ำ อย่าง สายการบินที่น่าจะชดเชยกับความเสี่ยงของ ICAO กลุ่มโรงแรม / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จะได้ประโยชน์ทางอ้อม
นอกจากนี้เม็ดเงินใหม่จากการทยอยปิดขาย IPO กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ราว 3-4 พันล้านบาทในช่วงนี้ เชื่อว่าจะสร้างบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกในหุ้นขนาดกลางได้มากขึ้น แต่เนื่องจากเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในปลายสัปดาห์นี้ต่อเนื่องไปอีก 2 สัปดาห์ ทำให้ปัจจัยดังกล่าว เป็นเพียงการเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว โดยเน้นหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 1Q58 จะเติบโตโดดเด่น น่าจะเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินกองทุนทริกเกอร์ฟันด์รอบนี้
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนที่เก็งกำไรหุ้นรายตัว อาจใช้เกณฑ์ผลตอบแทนจากการลงทุนราว 5-10% เป็นการตัดสินใจขายทำกำไรเช่นเดิม ขณะที่หุ้นเป้าหมายปรับฐานลงแรง ก็กลายเป็นจังหวะของการเข้าสะสมเก็งกำไรรอบสั้นเช่นกัน” หรือ “ขึ้นแรงขาย / ลงแรงซื้อ” เช่นเดิม
Accumulative Buy: SAMART / TASCO
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มี.ค.) แม้ยังถูกกดดันจากปัจจัยรอบด้าน แต่การที่ SET Index ปรับลดลงกว่า 120 จุด จนมีค่า PER14.5 เท่า (อิง EPS 103 บาท) ถือว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้น PER ต่ำ+เงินปันผลสูง SPALI ([email protected]), STPI([email protected]) วันนี้เลือก STPI([email protected]) เป็น Top Pick เพราะมีโอกาสได้งานใหม่สูงราคาหุ้นปัจจุบันมี PER 7.7 เท่า และมี upside กว่า 55% และ Dividend Yield 5%
บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มี.ค.) ว่า SET ขาดปัจจัยบวก Rebound อย่างจำกัด
ประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนรายย่อยจะเริ่มกลับมาเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กที่ราคาปรับลงมามากๆในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่มีแรงหนุนมากพอที่จะทำให้ SET กลับไปยืนเหนือระดับ 1,500 จุด ได้อย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นการรีบาวน์ของ SET จะจำกัดและมีโอกาสพลิกกลับลงลึกกว่าจุดต่ำสุดเดิมในสัปดาห์ก่อนที่ 1,485 จุด ในการประเมินทางเทคนิค การเคลื่อนไหวของ SET ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันบริเวณ 1,530 จุดและเส้น 200 วันที่ 1,540 จุด ยังแสดงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะสั้น หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ควรรอให้ SET ปรับลดลงสะท้อนความคาดหวังต่อการปรับลดประมาณการกำไรลงมาให้ใกล้เคียงความเป็นจริงก่อน เราประเมินว่า บริเวณ 1445 จุด เป็นระดับที่น่าจะสะสมหุ้นอีกครั้ง หรือประมาณเดือน พ.ค. ที่บริษัทจดทะเบียนประกาศงบ 1Q58
Technical Pick : BA EMC NMG TPIPL IFEC
Theme Play: กลุ่มนำตลาด Laggard Play (PTT PTTEP TUF CPF PTTGC DTAC CPALL CPN)
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มี.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ มีเด้ง บวกกรอบจำกัด คาดดัชนีแกว่งตัวขึ้น(ไม่แรง) หนุนโดยแรงซื้อจากกองทุนไทยเพื่อราคาปิดงวดบัญชีไตรมาส 1 และเพื่อกองทุนทริกเกอร์ยอดเปิดขาย 7-8 พันล้านบาทช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าจิตวิทยาในประเทศจะดีขึ้นบ้างหลังมีโอกาสที่ไทยอาจยกเลิกกฎอัยการศึกและเปลี่ยนเป็นมาตรา 44 ของรธน.ชั่วคราวแทน
อย่างไรก็ดีคาดว่าทางขึ้นของ SET ยังจำกัด จาก1.นักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจไทยก.พ.(ออกวันอังคาร) เพื่อประเมินแนวทางนโยบายการเงินไทย และ2.ประเด็นเรื่องกรีซล่าช้าอีก กรีซไม่สามารถยื่นแผนปฏิรูปต่อเจ้าหน้าหนี้ในวันนี้ได้ แต่คาดว่าจะยื่นแผนได้ภายในสัปดาห์นี้ ยังคงมุมมองว่าจะมีทางออกเรื่องกรีซภายในช่วงสงกรานต์ เชิง valuation คงมุมมองว่าความเสี่ยงทางลงของ SET อยู่ที่ 1470 จุด
หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร TOP+PLANB