4 โบรกฯเชียร์ซื้อ KBANK เก็งกำไร Q1/58 โตเด่น ลุ้นปันผลปีนี้ที่ 4.25 บ.
KBANK ณ เวลา 14.37 น.อยู่ที่ 229.00 บาท บวก 3.00 หรือ 1.33% มูลค่าการซื้อขาย 581.16 ล้านบาท โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 229.00 บาท ระหว่างวันมีการปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 230.00 บาท และแตะระดับต่ำสุดที่ 227.00 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ณ เวลา 14.37 น.อยู่ที่ 229.00 บาท บวก 3.00 หรือ 1.33% มูลค่าการซื้อขาย 581.16 ล้านบาท โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 229.00 บาท ระหว่างวันมีการปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 230.00 บาท และแตะระดับต่ำสุดที่ 227.00 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์(30 มี.ค.)ว่า แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 280.00 บาท/หุ้น ประมาณการกำไรไตรมาส 1/58 เท่ากับ 12.2 พันล้านบาท โดยมาจากสินเชื่อที่ขยายตัว NIM แข็งแกร่งเพราะต้นทุนการเงินต่ำลง และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่ำลงจากไตรมาส 4/57
ขณะที่คงเป้าหมายการเติบโตของปีนี้ไว้เท่าเดิม แม้ว่าศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะปรับลดคาดการณ์ GDP Growth ของไทยปีนี้ลงเป็น 2.8% จากเดิม 4.0% แต่ธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 8-9%, NIM ทรงตัวที่ 3.5-3.7% โดยมีการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ดี และต้นทุนดำเนินงานต่อรายได้อยู่ในสัดส่วน 40% กลางๆ ด้าน NPL Ratio คาดว่าจะอยู่ในระดับ 2.2-2.3% และสำรองค่าเผื่อฯ 0.90%+/- ของสินเชื่อรวม
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 280 บาท ทั้งนี้ KBANK เป็นหนึ่งในธนาคารที่ยังเติบโตได้ดีแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะซบเซา ทั้งนี้เพราะมีการกระจายของพอร์ตสินเชื่อและฐานลูกค้าที่ดี (30% corporate, 38% SME และ 26% retail) และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยขยายตัวแกร่ง คุณภาพสินทรัพย์ดี ทำให้ธนาคารมี ROE สูงอย่างต่อเนื่อง
บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์(30 มี.ค.)ว่า แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 272.00 บาท/หุ้น คาดไตรมาส 1/58 กำไรโต 19% จากปีก่อน จากรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยโตเด่น รวมถึง KBANK เตรียมจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน 2H57 ที่ 3.50 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 1.5%
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์(30 มี.ค.)ว่า แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 255.00 บาท/หุ้น โดยมองว่าจุดเด่นของธนาคาร คือ การเติบโตที่ต่อเนื่องทั้งในช่วงที่เศรษฐกิจดีและไม่ดี และความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น ROE สูงเป็นอันดับต้นๆ
บล. ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์(30 มี.ค.)ว่า แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 255.00 บาท/หุ้น ยังมองว่า KBANK นั้นมีความโดดเด่นทางด้านโครงสร้างรายได้ที่มีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียม รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารอื่น ซึ่งทำให้กำไรไม่ผันผวนมากในช่วงที่การปล่อยสินเชื่อค่อนข้างชะลอตัว
ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ของ KBANK ไว้เหมือนเดิมที่ 48.5 พันล้านบาท โดยที่ยังคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมของ KBANK จะเติบโตได้ ประกอบกับคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ประมาณ 10% และทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นด้วย คาดว่า KBANK จะมีการจ่ายปันผลจากผลประกอบการปี 2558 จำนวน 4.25 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 1.9%
ส่วนปี 2557 KBANK ประกาศจ่ายปันผล 4 บาท/หุ้น โดยมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.50 บาท/หุ้น เหลือปันผลครึ่งปีหลังอีก 3.50 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 1.5% โดยจะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 9 เม.ย. และจ่ายวันที่ 30 เม.ย. 2558