น้ำมันดิบปิดวานนี้พุ่งกว่า 2 ดอลล์ หลังสหรัฐผลิตน้ำมันลดลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์เปิดเผยว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับขึ้น 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.1 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 มี.ค. ปรับตัวลดลง 36,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.386 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้
ขณะที่เบเกอร์ ฮิวจ์รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐ ณ วันที่ 27 มี.ค. ลดลง 21 แห่ง สู่ระดับ 1,048 แห่ง ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ราคาน้ำมันที่ยังคงเคลื่อนไหวในระดับต่ำอาจจะทำให้กลุ่มผู้ผลิต shale oil ของสหรัฐ ชะลอการผลิตลง
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 มี.ค. พุ่งขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 471.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 58.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นักลงทุนจับตาดูผลการเจรจาประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างใกล้ชิด โดยนักวิเคราะห์คาดว่า อิหร่านอาจจะเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากชาติตะวันตกตัดสินใจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะที่ปัจจุบันอิหร่านส่งออกน้ำมันดิบราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังผลิตเกินความต้องการเป็นจำนวนถึง 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยคาดว่าอิหร่านมีน้ำมันในสต็อกกว่า 30 ล้านบาร์เรล