CPNโตได้แม้ในช่วงเศรษฐกิจซบเซาแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย61.00บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (16 เม.ย.58) ว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN จะทยอยเปิดศูนย์การค้าใหม่ในปีนี้ โดยในเดือนพ.ค.58 จะเปิดที่ระยอง และในเดือนก.ค.58 จะเปิดที่บางใหญ่ และเดือนต.ค.58 เปิดที่รามอินทรา ซึ่งปัจจุบันโครงการใหม่ทั้งสามแห่งนี้มีผู้สนใจเช่าพื้นที่แล้ว 90% ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้ค่าเช่าปีนี้ขยายตัวได้ โดยเรามีสมมติฐานรายได้ปี 58 ของบริษัทเติบโต 15% ซึ่งมาจากการเติบโตของสาขาเดิม 5% และเปิดสาขาใหม่ 10%
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (16 เม.ย.58) ว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN จะทยอยเปิดศูนย์การค้าใหม่ในปีนี้ โดยในเดือนพ.ค.58 จะเปิดที่ระยอง และในเดือนก.ค.58 จะเปิดที่บางใหญ่ และเดือนต.ค.58 เปิดที่รามอินทรา ซึ่งปัจจุบันโครงการใหม่ทั้งสามแห่งนี้มีผู้สนใจเช่าพื้นที่แล้ว 90% ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้ค่าเช่าปีนี้ขยายตัวได้ โดยเรามีสมมติฐานรายได้ปี 58 ของบริษัทเติบโต 15% ซึ่งมาจากการเติบโตของสาขาเดิม 5% และเปิดสาขาใหม่ 10%
คาดว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะอนุมัติการเข้าซื้อกิจการเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต จากกลุ่มเซ็นทรัล มูลค่า 6.4 พันล้านบาท ซึ่งมีส่วนลด 16% จากราคาประเมินของผู้ประเมินอิสระ 2 รายที่ได้จัดทำไว้ สำหรับอัตราการเช่าพื้นที่โครงการนี้อยู่ระดับสูงถึง 98%
อัตรากำไรสูง ฐานะการเงินดี อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงที่ 49% ในปี 58 และมีอัตรากำไรสุทธิ 34% นับว่าสูงมาก กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยการเข้าซื้อเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต จากกลุ่มเซ็นทรัลไม่ได้ทำให้มุมมองด้านฐานะการเงินเปลี่ยนแปลง เพราะสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนหลังการเข้าซื้อยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5 เท่า (จากปัจจุบัน 0.3 เท่า) ขณะเดียวกันโครงการนี้จะช่วยสร้างรายได้ค่าเช่าไปอีก 41 ปีตามอายุการบริหารสิทธิการเช่าที่ได้มา เราประมาณการว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ CPN ในปีนี้ 2% โดยมีสมติฐานว่าดีลจะเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 1 มิ.ย.58
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 61 บาท (DCF) บริษัทประกาศจ่ายปันผลสำหรับปี 57 เท่ากับ 0.65 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 30 เม.ย.58 จุดเด่น คือ ศูนย์การค้าที่อยู่ในการบริหารของ CPN มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงมาก ทำให้มีรายได้ค่าเช่าที่แน่นอนและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง การเปิดโครงการใหม่เฉลี่ยปีละ 3 แห่งทำให้บริษัทมีการเติบโตได้ต่อเนื่องแม้กำลังซื้อของผู้บริโภคจะชะลอตัวไปบ้างในบางช่วงเวลา เราประเมินว่า CPN จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาในปีนี้จำกัดกว่าอีกหลายบริษัทที่อิงกับการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ความเสี่ยงต่อประมาณการกำไร คือ การเลื่อนเปิดโครงการใหม่ออกไปนานกว่าที่คาด