โบรกฯ เก็งกลุ่มปิโตรฯ เด้งรับราคาผลิตภัณฑ์ปรับขึ้น 2-12%
โบรกฯ เก็งกลุ่มปิโตรเคมี ได้รับผลดีจากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับขึ้น 2-12% นำโดยราคาเอทิลีน ทำให้ส่วนต่างพุ่งขึ้นเป็น 795 เหรียญต่อตัน (เพิ่มขึ้น 28%) เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2549
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ณ เวลา 11.35 น. ราคาอยู่ที่ 58.50 บาท บวก 2 บาท หรือ 3.54% สูงสุดที่ 58.75 บาท ต่ำสุดที่ 58 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 472.07 ล้านบาท
ด้านราคาหุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ราคาอยู่ที่ 526 บาท บวก 4 บาท หรือ 0.77% สูงสุดที่ 530 บาท ต่ำสุดที่ 520 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 512.84 ล้านบาท
ขณะเดียวกันราคาหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ราคาอยู่ที่ 58 บาท บวก 3.50 บาท หรือ 6.42% สูงสุดที่ 58 บาท ต่ำสุดที่ 57 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 345.4 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.90%
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 เม.ย.) ว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับขึ้น 2-12% นำโดยราคาเอทิลีน ทำให้ส่วนต่างพุ่งขึ้นเป็น 795 เหรียญต่อตัน (เพิ่มขึ้น 28%) เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2549
ส่วนต่างราคา HDPE เพิ่มขึ้น 12% เป็นบวกต่อ PTTGC และ SCC อีกทั้งสายอะโรเมติกส์ปรับขึ้นเป็นบวกต่อ TOP และ PTTGC ส่วนต่าง PX เพิ่มขึ้น 47% หลังเกิดเหตุระเบิดในโรงผลิต PX Dragon Aromatics ในวันที่ 6 เม.ย. 2558 กำลังผลิต PX และ BZ 1.6 และ 0.24 ล้านตันต่อปีในจีน ส่วนต่าง BZ เพิ่มขึ้น 29%
โดยปัจจัยดังกล่าวคาดส่งผลให้ราคา PET และ PTA ปรับขึ้น จากความกังวล PX ขาดแคลน ขณะที่ราคาเอทิลีนที่แกร่งกดดันส่วนต่าง PVC และ MEG ที่ใช้เอทิลีนเป็นวัตถุดิบ
ทั้งนี้ให้น้ำหนักการลงทุนเท่ากับตลาด แต่ความกังวลต่อความตึงตัวของเอทิลีนและ PX ส่งผลให้กลุ่มปิโตรเคมีดูเป็นบวกในระยะสั้น โดยยังชอบ SCC ที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากส่วนต่างราคา HDPE กลับไปยืนที่ระดับ 840 เหรียญต่อตันอีกครั้ง ขณะที่ PTTGC ได้ประโยชน์จากราคา HDPE สูงกว่า 1,300 เหรียญและราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ 60 เหรียญต่อบาร์เรล