ม.หอการค้า ปรับคาดการณ์ GDP ไทยทั้งปี 58 เหลือโต 3.2% จากเดิมคาด 4%

ม.หอการค้า ปรับคาดการณ์ GDP ไทยทั้งปี 58 เหลือโต 3.2% จากเดิมคาด 4%


ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานว่า ขณะนี้ได้ปรับประมาณการอัตราการยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ลงมาเหลือเติบโต 3.2% จากเดิม(ช่วง พ.ย.-ธ.ค.57) คาดว่าจะเติบโต 4% และมองว่ายังโอกาสที่จะเติบโตต่ำกว่า 3% เนื่องจากมีปัจจัยลบจากหลากหลายประเด็นที่ยังกดดันอยู่

ขณะที่คาดว่าภาคการส่งออกจะขยายตัวได้เพียง 0.4% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 4.1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 58 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.5% จากเดิมคาด 2.3%

โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 1/58 จะเติบโตได้ราว 2.2%, ไตรมาส 2/58 คาดว่าจะเติบโต 2.8%, ไตรมาส 3/58 คาดเติบโต 3.5% และในไตรมาส 4/58 คาดว่าจะเติบโตได้สูงสุดของปีที่ 4.2%

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของการลงทุนของภาคเอกชนในไตรมาส 1/58 ยังอยู่ในภาวะซบเซาเนื่องจากผู้ประกอบการมียอดขายลดลง เป็นผลมาจากกำลังซื้อที่หดหายไปจากระบบและการเบิกจ่ายงบประมาณ(โดยเฉพาะงบลงทุน) ยังล่าช้ากว่าแผนซึ่งได้ประกาศไว้ ทำให้ผู้ประกอบการไม่มีความมั่นใจที่จะลงทุนเพิ่มเติม

ส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐ พบว่าในช่วง 6 เดือนของปีงบประมาณ 2558 รัฐบาลสามารถเบิกจ่ายไปได้ประมาณ 51% โดยในส่วนของงบลงทุนสามารถเบิกจ่ายไปได้ประมาณ 30% จากงบที่ทำสัญญาผูกพันทั้งหมดประมาณ 43% เนื่องจากบางโครงการติดขัดในขั้นตอนของการทำสัญญา

ขณะเดียวกันอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 1/58 ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าประมาณ 0.2% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ในขณะที่เงินตราสกุลอื่นๆกลับมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในระดับประมาณ 4.0-10.0% ทั้งนี้คาดว่าทั้งปี 58 เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-33.00 บาท/ดอลลาร์

พร้อมกันนี้ทางศูนย์พยากรณ์ฯ ยังเปิดเผยผลสำรวจผู้ประกอบการทั่วประเทศ จำนวน 801 ตัวอย่าง ต่อสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจไทย ไตรมาสที่ 1/58 และแนวโน้มปี 58 พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 37.6% คาดว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4/58, รองลงมา 28.1% คาดว่าจะฟื้นตัวช่วงไตรมาส 3/58, อันดับ 3 มี 19.7% คาดว่าจะฟื้นตัวไตรมาส 1/59

เมื่อประเมินผลภาพรวมของรัฐบาล 6 เดือน ด้านการเมืองได้คะแนนความพอใจ 8.7 คะแนนผลการดำเนินงาน 5.2, ด้านสังคม ได้คะแนนความพอใจ 8.2 คะแนนผลการดำเนินงานได้ 4.8 ขณะที่คะแนนความพอใจด้านเศรษฐกิจได้ 8.1 ส่วนคะแนนผลการดำเนินงานได้ไป 4.5 

สำหรับข้อเสนอแนะ ได้แก่ เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็ว เร่งเบิกจ่ายงบประมาณโดยเร็ว ต้องการให้กระตุ้น ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว ช่วยเหลือภาคการส่งออก เช่น หาตลาดที่มีกำลังซื้อใหม่ๆ ตลอดจนมาตรการทางกาเงินสนับสนุน ช่วยเหลือภาคการเกษตรโดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรเพื่อให้ประชาชนฐานรากมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น

ส่วนสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการมากที่สุด คือ สร้างรายได้ กระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ, สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน, สร้างบรรยากาศการลงทุนภายในประเทศ, กระตุ้นการท่องเที่ยว, ลดปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ, ดูแลปัญหาการส่งออกและราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ

Back to top button