กบง. ปรับลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ หวังตรึงราคาขายปลีก
กบง. ปรับลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ทุกชนิดเว้น E85 เพื่อตรึงราคาขายปลีก
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกบง.ปรับลดอัตราจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด ยกเว้น E85 เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศไม่ผันผวนตามสถานการณ์ตลาดโลก ผู้บริโภคยังคงใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดได้ในราคาเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
โดยที่ประชุมฯ เห็นชอบปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังนี้ น้ำมันเบนซิน ลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ 0.50 บาท/ลิตร จากเดิม 7.15 บาท/ลิตร เป็น 6.65 บาท/ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ 0.30 บาท/ลิตร จากเดิม 1.25 บาท/ลิตร เป็น 0.95 บาท/ลิตร,น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ 0.30 บาท/ลิตร จากเดิม 0.75 บาท/ลิตร เป็น 0.45 บาท/ลิตร, น้ำมัน E20 ชดเชยเพิ่มจากกองทุนฯ 0.60 บาท/ลิตร จากเดิม -0.80 บาท/ลิตร เป็น -1.40 บาท/ลิตร, น้ำมันดีเซล ลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ 0.60 บาท/ลิตร จากเดิม 1.05 บาท/ลิตร เป็น 0.45 บาท/ลิตร ส่วน น้ำมัน E85 ไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2558 เป็นต้นไป
ทั้งนี้จะส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องลดลง 1,324 ล้านบาท/เดือน โดยจะมีรายรับคงเหลือ 1,234 ล้านบาท/เดือน ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิ 40,017 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมกบง.ได้พิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยน้ำมันดิบดูไบปรับตัวขึ้น 5.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.97 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลจากราคาปิดตลาดวันที่ 2 เม.ย. 58 ที่ประชุมฯ จึงได้ใช้กลไกการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยปรับลดอัตราจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด ยกเว้น E85 เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศไม่ผันผวนตามสถานการณ์ตลาดโลก