ดอลล์วันศุกร์แข็งค่าหลังสหรัฐเผยข้อมูลเงินเฟ้อ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 เม.ย.) หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 เม.ย.) หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์
ทั้งนี้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบดอลลาร์ สู่ระดับ 1.0794 ดอลลาร์ จาก 1.0799 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์ทรงตัวเทียบดอลลาร์ที่ 1.4961 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐ แตะ 0. 7778 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 0.7815 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบเงินเยนที่ระดับ 118.77 เยน จาก 118.85 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส แตะ 0.9528 ฟรังก์ จากระดับ 0.9550 ฟรังก์ โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกัน เมื่อเทียบรายเดือน
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 95.9 จากระดับ 93.0 ในเดือนมี.ค.