PLANBเติบโตด้วยตนเองแข็งแกร่งมอง P/E ปี 58-59สูงแต่ยังน่าสนใจ
บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) ว่า บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB มีแนวโน้มการเติบโตด้วยตนเอง (organic growth) แข็งแกร่ง จากการที่บริษัทให้แนวทางไว้ เราคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไร CAGR ระหว่างปี 57-60 เป็น 45% ด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 58 เป็น 0.11 บาท ปี 59 เป็น 0.15 บาท และปี 60 เป็น 0.18 บาท
บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) ว่า บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB มีแนวโน้มการเติบโตด้วยตนเอง (organic growth) แข็งแกร่ง จากการที่บริษัทให้แนวทางไว้ เราคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไร CAGR ระหว่างปี 57-60 เป็น 45% ด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 58 เป็น 0.11 บาท ปี 59 เป็น 0.15 บาท และปี 60 เป็น 0.18 บาท
โดยแรงผลักดันมาจาก (1) อัตราค่าโฆษณาปรับขึ้น 10-20% (2) มีการใช้อัตราการการให้บริการเพิ่มขึ้นเหนือกว่า 90% จากเดิม 70% ในงวดปี 57 (3) การขยายโฆษณาที่รถโดยสารจาก 1,500 คันเป็น 3,000 คัน ในปี 59 (4) ขยายไปต่างจังหวัดโดยใช้ตู้บุญเติม ของ FSMART เป็น 40,000 ตู้ และ (5) เป็นพันธมิตรกับ Hello Bangkok, FSMART รวมทั้งมีการร่วมทุนกับอินโดนีเซีย สำหรับภาพในอุตสาหกรรม สื่อนอกบ้านคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9.5% ของงบโฆษณาต่อปีทั้งหมดที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท และมีอัตรการเติบโตปีละ 10-12% นำโดยสื่อประเภท digital ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 40% ของรายได้ PLANB ในปี 57
ทั้งนี้การเติบโตผ่านพันธมิตร PLANB ได้มีการทำสัญญาข้อตกลงกับ Hello Bangkok ในเรื่องการทำโฆษณาทั้งในส่วนบริหารและการโฆษณาผ่านจอ Digital LED ทั้ง Signboard และ Billboard ในประเทศไทย นั่นหมายถึงบริษัทจะสามารถครอบครองสื่อนอกบ้านได้ถึงประมาณ 90% สำหรับส่วนแบ่งรายได้ระหว่าง PLANB :Hello Bangkok เป็น 20:80 เราคาดว่าจะทำให้ PLANB จะได้ประโยชน์คือ 40 ล้านบาทในปี 58 และเพิ่มเป็น 60 ล้านบาทในปี 59 นอกจากนี้ PLANB ยังได้เป็นพันธมิตรกับ FSMART ในธุรกิจตู้เติมบุญ ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเข้ามา 150 ล้านบาทต่อปี
อีกทั้งไปสู่ระดับภูมิภาค เริ่มจากการรุกตลาดอินโดนีเซีย โดยมีพันธมิตรคือ Emtek ซึ่งถือว่าใหญ่เป็นอันดับที่สองของสื่อที่อินโดนีเซีย และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน PLANB ด้วย มีแนวโน้มที่ว่าจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Emtek ในปีนี้ ทางบริษัทคาดว่าจะเป็น Upside Risk ที่ดีต่อไป โดยคาดหวังว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเป็นประมาณ 40% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2563
นอกจากนี้เห็นว่า PLANB น่าสนใจในเรื่องการเติบโตสูง แม้ว่าในแง่การประเมินมูลค่าหุ้นแบบ P/E ปี 58 และ 59 เป็น 44x/32x สูงกว่าเทียบกับ VGI ซึ่งซื้อขายที่ P/E 26x/23x แต่ในแง่มุมของ PEG นั้น PLANB ดูจะน่าสนใจมากกว่าคือ PEG ปี 59 เป็น 0.92 เท่า ขณะที่ VGI เป็นประมาณ 1.6 เท่า อีกทั้งการใช้กลยุทธ์พันธมิตร ก็จะช่วยเร่งการเติบโตด้านรายได้ได้เป็นอย่างดีในอนาคต