SYNTECมองกำไรเติบโตโดดเด่นพร้อมValuationไม่สูงแนะนำซื้อ
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ (28เม.ย.) ว่า บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SYNTEC Backlog ในมือ ณ สิ้นปี 57 สูงที่ 10.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% และสูงกว่า 5 ปีย้อนหลัง 83% แบ่งเป็นงานอาคารสูงมากสุด 29 โครงการ อาคารพาณิชย์ 2 โครงการ และสาธารณูปโภค 1 โครงการ งานก่อสร้างใหม่ที่ประมูลได้ให้อัตรากำไรขั้นต้น 15% สูงกว่างานในมือที่เฉลี่ย 12% สืบเนื่องจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่น้อยลง ด้านจำนวนพนักงานในสำนักงาน ที่ไซด์งานและโกดังเป็น 919 คน สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่วนแรงงานทั้งหมดมีมากไปถึง 4,152 คนแล้ว
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ (28เม.ย.) ว่า บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SYNTEC Backlog ในมือ ณ สิ้นปี 57 สูงที่ 10.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% และสูงกว่า 5 ปีย้อนหลัง 83% แบ่งเป็นงานอาคารสูงมากสุด 29 โครงการ อาคารพาณิชย์ 2 โครงการ และสาธารณูปโภค 1 โครงการ งานก่อสร้างใหม่ที่ประมูลได้ให้อัตรากำไรขั้นต้น 15% สูงกว่างานในมือที่เฉลี่ย 12% สืบเนื่องจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่น้อยลง ด้านจำนวนพนักงานในสำนักงาน ที่ไซด์งานและโกดังเป็น 919 คน สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่วนแรงงานทั้งหมดมีมากไปถึง 4,152 คนแล้ว
อีกทั้งประมูลงานในช่วงไตรมาส 1/58 ได้อีก 2.3 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 29% จากเป้าประมูลงานปีนี้ที่ 8 พันล้านบาท จึงมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จที่จะบรรลุเป้าหมาย และจะเข้าประมูลงานอีก 18 โครงการ มูลค่ารวม 14.9 พันล้านบาท หากใช้โอกาสประสบความสำเร็จในการประมูล (success ratio) ที่ 30% จะได้งานเพิ่มอีกประมาณ 4.5 พันล้านบาท เมื่อรวมงานที่ได้ YTD 2.3 พันล้านบาท ก็แสดงว่าระหว่างปี หากประมูลงานได้เพิ่มอีก 1.2 พันล้านบาท ก็จะบรรลุเป้าหมายปีนี้แล้วที่ 8 พันล้านบาท
โดยมาร์จิ้นดีขึ้นจากการประหยัดค่าเหล็กก่อสร้างได้ 80-100 ล้านบาท บริษัทสั่งซื้อเหล็กที่จำนวน 2 หมื่นตัน ที่ราคาเหล็กลดลงเป็น 14-15 บาทต่อกก. จากราคาประเมินช่วงประมูลงานที่ 18-20 บาท จึงมีกำไร 80-100 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 0.5-0.6% ต่อปี ทั้งนี้งานก่อสร้างใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2 ปี และรายได้ต่อปีในปัจจุบันเป็นประมาณ 7 พันล้านบาท
การถือหุ้น BMCL ในต้นทุนที่ต่ำและมีโอกาสบันทึกรายได้พิเศษ ปัจจุบันเหลือหุ้น BMCL อีก 180 ล้านหุ้น ที่ต้นทุนเฉลี่ยต่ำเพียง 1.26 บาท จึงมีกำไรที่ยังไม่รับรู้ประมาณ 124 บาท หรือคิดเป็น 0.08 บาทต่อหุ้น SYNTEC นอกจากนี้คดีความที่เคยตั้งสำรองเป็นค่าใช้จ่ายไว้หากในที่สุดคดีความจบแล้วบริษัทชนะ ก็จะกลับรายการสำรองบันทึกกลับมาเป็นรายได้ เช่น 1) โรงแรมคาปินสกี้ ประมาณ 140 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย 60 ล้านบาท) 2) Sky Walk 5-10 ล้านบาท และ 3) งานการบินไทย ที่จะเรียกร้องจาก ผู้รับเหมาช่วงคือ STEC อีก 32 ล้านบาท
คาดอัตราการเติบโตกำไรปกติปีนี้สูงเป็น 39%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและทรงตัวในปีหน้า แต่บริษัทจะสามารถใช้การขายทำกำไร BMCL และกำไรพิเศษต่างๆมาช่วยเสริมกำไรได้ ทั้งนี้ในประมาณการปีนี้และปีหน้า ฝ่ายวิจัยฯ DBSV มีสมมุติฐานให้มีกำไรพิเศษเป็น 34 และ 70 ล้านบาท ตามลำดับ
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐานเท่ากับ 4.15 บาท ประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 11 เท่า เราเห็นว่าบริษัทยังมีข้อดีอีก 2 ประการคือ 1) รายได้ค่าเช่าจาก SA ทยอยเพิ่มขึ้น ปีนี้นอกจากแนชเชอรัล วิลล์ที่ลุมพินี ก็จะมีโครงการที่ศรีราชา ภายใต้บริษัทย่อย เอสซีอาร์ โครงการแรกเข้ามาเสริม ปีหน้าก็จะมีโครงการสองแล้วเสร็จเข้ามาเพิ่มรายได้อีก และ 2) มีที่ดินเปล่าจำนวน 55 ไร่ที่ทำเล เอกมัย-รามอินทรา ต้นทุนเพียง 1.8 ล้านบาทต่อไร่ ปัจจุบันปรับเพิ่มไปถึง 4.5 ล้านบาทต่อไร่ คิดเป็นกำไรแฝงที่ 149 ล้านบาท หรือ 0.09 บาทต่อหุ้น SYNTEC