เซียนอยู่รู..หมูอยู่ตึกโมนิก้าและทีมงาน

*ต้องยอมรับว่า ประเด็นข่าวสารใหม่ๆ ที่ทำให้บรรดาแมงเม่ารู้สึกหัวใจพองโตนั้น ยังไม่มีอะไรที่จับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอัน รูปแบบของข่าวสารยังเป็นการโฆษณาชวนเชื่อแบบวันต่อวัน “โมนิก้า” ถึงเห็นนักลงทุนกลุ่มต่างๆ หันมาเล่นเก็งกำไรสั้นๆ กันมากมายก่ายกอง เพราะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้บรรดาขาลุยมีโอกาสทำกำไรได้อย่างจะแจ้ง วันนี้ถึงไม่ต้องคิดอะไรให้มากความนะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งทีทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงคำพังเพยที่ว่า “เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก” ขึ้นมาในทันที เพราะเซียนที่ว่า แน่ๆ เก๋าๆ ต่างพากันตัดขายหุ้นขาดทุนกันเป็นแถว คนที่เล่นหุ้นใหญ่ชอกช้ำระกำใจเป็นที่สุด(ในระยะนี้) ส่วนคนที่เล่นหุ้นขนาดกลางก็อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ขณะที่กลุ่มคนที่เล่นหุ้นเล็กก็บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยๆ หากออกของไม่ทันเวลาเจ้าค่ะ

*สูตรการลงทุนเที่ยวนี้อยู่ที่ว่า “มองสั้น มองยาว” เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเมื่อดูภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เท่ากับเป็นการตอกย้ำภาพไซด์เวย์ดาวน์ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าจุดเด้งกลับสั้นๆของดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 1,530 จุด ขณะที่แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาจริงๆ อยู่ที่ระดับ 1,520 จุด วันนี้ถึงต้องมีคนได้เสียอีกเพียบนะจ๊ะ

*เนื่องจากดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,531.53จุด ลบไป 17.30 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.80 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจุดวัดใจที่นักเล่นต้องถามใจตัวเองว่า ทุกอย่างยังอยู่ในวิสัยที่รับได้หรือเปล่า? ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้นักเล่นพบกับตัวเลขกำไร คิดดูซิ! หลายคนบอกแย่อย่างนั้น แย่อย่างนี้..เหตุไฉนกลับมีหุ้นหลายตัวปิดบวกเขียวปี๋ได้ล่ะค่ะ

*ประเดิมกันที่เล็กพริกขี้หนู CEI กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.27บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเกือบ 100 ล้านบาท เขาเรียกจังหวะนี้ว่า พลิกวิกฤติเป็นโอกาส หุ้นถึงเปิดกระโดดอย่างร้อนแรง ซึ่งเป็นช็อตสั้นๆ ที่นักโหนกระแสกระโจนเข้าใส่กันอุตลุด และต้องไม่ลืมว่า ปัจจัยพื้นฐานยังไม่เอื้อ การเล่นเที่ยวนี้เป็นแค่ผลทางจิตวิทยา โอกาสไปต่อยัง 50:50 ไงล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ THRE มองในมุมพื้นฐานยังเป็นแค่การวาดวิมานเมฆ ยกเว้นมองในมุมของการเล่นเทคนิค นี่เป็นตัวเลือกหลักที่ต้องมีช็อต 2 ช็อต 3 และ ช็อต 4 ตามออกมาเป็นพรวน ยิ่งหุ้นกระชากขึ้นแรงเป็นวันแรก วันนี้ต้องมีการเล่นต่ออีกไม้ ไม่เช่นนั้นทิศทางหุ้นจะเสีย กองเชียร์จะไม่มีอารมณ์ร่วม บวกกับราคาปิดที่ 3.04 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 3.40%  เป็นระดับราคาที่ทุกคนเล่นได้ เดี๊ยนถึงไม่ตำหนิคนที่มาเล่นหุ้นต่ำสิบในช่วงตลาดผันผวนไงล่ะจ๊ะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ TVI ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากที่คิด และไม่มีอะไรต้องกังวล ในเมื่อผู้เล่นชูประเด็นหุ้นต่ำเกินไป จึงมีแรงเก็งกำไรไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมา “ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า” ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นดันจากราคา 5-6 บาท ขึ้นไปถึงระดับ 10 บาท แล้วปล่อยร่วงลงมายืนแถว 5 บาท ล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 8.60บาท บวกไป 0.30บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 337 ล้านบาท เดี๊ยนถึงต้องหันมามองหุ้นประกันภัยรายนี้ในทันทีเจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งตัวอย่างที่ต้องมองให้ดีๆ คงหนีไม่พ้นหุ้นโค้ก HTC จู่ๆ เด้งขึ้นแรงโดยไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า บวกกับมุขที่ใช้ก็เป็นมุขเดิมๆ “โมนิก้า” ถึงมองว่า นี่เป็นเกมที่แมงเม่าหลายรายอ่านออก แถมปี 57 มีเหตุการณ์สงครามวันเดียวแบบนี้เกิดขึ้น 2 ครั้งด้วยกัน เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 14.10 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 14.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อนอะไรเลยนะตัวเอง

*ส่วนรายที่น่าค้นหาจริงๆ “โมนิก้า” กลับมองไปที่หุ้นท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์  NYT  วันนี้กลับมาเล่นกันอีกครั้งอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งที่ปี 57 โดนถล่มจนไม่เหลือซาก มันตีความได้อย่างเดียวว่า มีอะไรดีแน่ๆ! หุ้นถึงกระชากขึ้นมาปิดที่ 15.90บาท บวกไป 1.80บาท หรือขึ้นไป 12.80%  ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท แถมสัญญาณ RSI ตั้งชัน 45 องศาเสียด้วยแบบนี้..ตามไปดูหน่อยไหมค่ะ

*พิลึกพิลั่นในยามนี้คงหนีไม่พ้น THAI กับ NOK กระชากขึ้นมาปิดที่ 13.60บาท บวกไป 0.60บาท หรือขึ้นไป4.60% ส่วนรายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.70บาท บวกไป 0.40บาท หรือขึ้นไป 3.50% “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ช็อกซีนีม่ามากๆ ก็ในเมื่อนักลงทุนสถาบันมองข้ามหุ้นสายการบิน การขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้จะไปได้ไกลสักเท่าไหร่? เดี๊ยนถึงเม้าท์ได้แค่ว่า “ซอยสั้น แต่ซอยถี่” ปลอดภัยสุดนะค่ะ

*งานนี้เม้าท์ได้เต็มปากเต็มคำว่า นักลงทุนสถาบันสะบักสะบอมกันเป็นแถว แต่นักลงทุนรายย่อยยังเข้าซื้อหุ้นแบบชิวๆ มันเป็นเหตุการณ์ที่สุดแสนจะคลาสสิกนะจะบอกให้